โนเกียเปิดตัว Nokia 801T มือถือดูทีวีสำหรับตลาดจีน S^3 จอ 4 นิ้ว
โนเกียได้เปิดตัวมือถือที่วางขายเฉพาะประเทศจีนเท่านั้น
Nokia 801T จอ 4 นิ้ว ระบบปฏิบัติการ Symbian^3
มีเสาอากาศดูทีวีได้ NFC
และรองรับ TD-SCDMA (3G ที่ใช้ได้เฉพาะประเทศจีน)
วันพุธที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2554
โนเกียส่งมือถือชักเสาบุกตลาดจีน
ป้ายกำกับ:ตลก, น่าสนใจ, เก๋
Nokia,
Nokia 801T
วันจันทร์ที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2554
พบผู้ใช้ IE ฉลาดน้อยกว่าเบราว์เซอร์ยี่ห้ออื่น
พบผู้ใช้ IE ฉลาดน้อยกว่าเบราว์เซอร์ยี่ห้ออื่น: "การสำรวจของบริษัท AptiQuant พบว่าผู้ใช้โปรแกรมเบราว์เซอร์ Internet Explorer ของไมโครซอฟท์มีไอคิว (IQ) ต่ำกว่าผู้ใช้เบราว์เซอร์ยี่ห้ออื่น ผู้สำรวจออกตัว ผลการศึกษาไม่ได้หมายความว่าชาว IE ฉลาดน้อย แต่พูดกำกวมว่าผลสำรวจสามารถสรุปว่าใครที่มี IQ ต่ำนั้นมีโอกาสสูงที่จะใช้งาน IE"
ป้ายกำกับ:ตลก, น่าสนใจ, เก๋
แวดวงไอที
โนเกียหล่น จากแชมป์สมาร์ทโฟนเหลืออันดับ 3
โนเกียหล่น จากแชมป์สมาร์ทโฟนเหลืออันดับ 3: "หลังจากเป็นเบอร์ 1 ในสังเวียนสมาร์ทโฟนโลกมาตลอด 15 ปี ล่าสุดโนเกียถูกจัดเป็นผู้จำหน่ายสมาร์ทโฟนอันดับ 3 ของโลกแล้ว เป็นรองแชมป์คนใหม่อย่างแอปเปิล และเบอร์ 2 อย่างซัมซุงจากแดนกิมจิ"
วันพฤหัสบดีที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2554
เผย"อินเตอร์เฟซใหม่"ของ Windows 8
เผย"อินเตอร์เฟซใหม่"ของ Windows 8: " ในงานประชุมนักพัฒนา D9 Conference เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ไมโครซอฟท์ (Microsoft) ได้นำเสนออินเตอร์เฟซการใช้งาน Windows 8 ที่แสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าของการพัฒนาอีกขั้นหนึ่งของระบบปฏิบัติการ ซึ่งความเห็นส่วนใหญ่ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า หน้าตาของมันคล้าย UI ของ Windows Phone 7 ในขณะที่ประสิทธิภาพการทำงานของโอเอสตัวใหม่จะสูงกว่า Windows 7 อย่างเห็นได้ชัด"
อินเตอร์เฟซที่เรียกว่า Live tile (รูปภาพ หรือไอคอนสี่เหลี่ยมขนาดเล็กที่เรียงต่อกันบนหน้าจอ) บน Windows Phone ถูกนำมาใช้กับระบบปฏิบัติการ Windows 8 โดยจะแสดงบนหน้าจอเริ่มต้น (Start Screen) ให้ผู้ใช้ได้เห็นเมื่ืออุปกรณ์ที่ทำงานด้วย Windows 8 ของเขาเริ่มทำงาน (ล็อกอินจากหน้า Lock Screen)
เนื่องจากการทำงานของ Windows โดยธรรมชาติจะมีรูปแบบของการทำ"หลายงาน" (multitasking) และเพื่อให้ Windows 8 รองรับการทำงานบนหน้าจอของ"แท็บเล็ต"ได้อย่างลงตัว ทางผู้พัฒนาจึงได้ออกแบบให้มันมาพร้อมกับฟีเจอร์ที่เรียกว่า "snapping" ซึ่งปกติผู้ใช้จะสามารถเลือกดูแอพฯต่างๆ ที่กำลังทำงานได้ด้วยการกวาดนิ้วจากซ้ายไปขวา แต่ด้วยฟีเจอร์นี้คุณสามารถลากแอพฯ เพื่อแบ่งหน้าจอในการดูแอพฯตัวอื่นๆ ได้ ในขณะที่แอพฯตัวปัจจุบันยังคงทำงานอยู่ แม้จะถูกย่อให้เหลือพื้นที่ในการทำงานเล็กลงไปก็ตาม
อินเตอร์เฟซของ Internet Explorer 10 ได้รับการออกแบบให้สนับสนุนการทำงานในระบบสัมผัส ในขณะที่รองรับแอพพลิเคชันที่พัฒนาด้วย HTML5 และการเร่งการทำงานกราฟิกด้วยฮาร์ดแวร์ทีมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นตามที่ได้มีรายงานข่าวไปแล้วก่อนหน้านี้
และสำหรับหน้าจอสัมผัสขนาดใหญ่ ไมโครซอฟท์ได้ออกแบบ"คีย์บอร์ดเสมือนบนหน้าจอ" (On Screen Virtual keyboard) ที่สามารถใช้นิ้วสัมผัสได้สะดวกยิ่งขึ้น โดยแบ่งคีย์บอร์ดเป็นสองส่วน เพื่อให้ผู้ใช้สามารถพิมพ์ข้อความด้วยมือทั้งสองได้สะดวกยิ่งขึ้น
Windows 8 จะสนับสนุนการทำงานของซอฟต์แวร์ที่รันบน Windows 7 และระบบไฟล์ของพีซีทั่วไป ดังนั้น พีซีอื่นๆ ที่ต่อเชื่อมอยู่บนเครือข่าย ตลอดจนเซิร์ฟเวอร์จะสามารถเข้าถึงได้อย่างสมบูรณ์โดยอุปกรณ์พกพาทีทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Windows 8
ผู้บริหารแผนก Windows Exprerience ของไมโครซอฟท์กล่าวว่า "มันไม่ได้แค่ทำให้พีซี (windows) ทำงานในระบบสัมผัส แต่ประสบการณ์ที่ผู้ใช้จะได้รับจาก Windows 8 คือความลื่นไหลในการใช้งานแอพพลิเคชน และอุปกรณ์ต่างๆ จากการที่แพลตฟอร์มพีซีวันนี้มีความหลากหลายมากขึ้น ส่วนติดต่อผู้ใช้ (UI) และแอพฯ ใหม่ๆ จะสามารถทำงานกับคีย์บอร์ด และเมาส์ หรือไม่ก็ได้ รวมถึงขนาด และความละเอียดของหน้าจอที่แตกต่าง จากแท็บเล็ตขนาดเล็กไปจนถึงโน้ตบุ๊ค เดสก์ทอป หรือ ออลอินวันพีซี และแม้แต่จอขนาดใหญ่ทีใช้ในห้องเรียน พีซีหลายร้อยล้านเครื่องจะทำงานด้วยส่วนติดต่อผู้ใช้ Windows 8 ได้อย่างลงตัว ไม่ว่าอุปกรณ์ของคุณจะเป็นอะไรก็ตาม"
อินเตอร์เฟซที่เรียกว่า Live tile (รูปภาพ หรือไอคอนสี่เหลี่ยมขนาดเล็กที่เรียงต่อกันบนหน้าจอ) บน Windows Phone ถูกนำมาใช้กับระบบปฏิบัติการ Windows 8 โดยจะแสดงบนหน้าจอเริ่มต้น (Start Screen) ให้ผู้ใช้ได้เห็นเมื่ืออุปกรณ์ที่ทำงานด้วย Windows 8 ของเขาเริ่มทำงาน (ล็อกอินจากหน้า Lock Screen)
เนื่องจากการทำงานของ Windows โดยธรรมชาติจะมีรูปแบบของการทำ"หลายงาน" (multitasking) และเพื่อให้ Windows 8 รองรับการทำงานบนหน้าจอของ"แท็บเล็ต"ได้อย่างลงตัว ทางผู้พัฒนาจึงได้ออกแบบให้มันมาพร้อมกับฟีเจอร์ที่เรียกว่า "snapping" ซึ่งปกติผู้ใช้จะสามารถเลือกดูแอพฯต่างๆ ที่กำลังทำงานได้ด้วยการกวาดนิ้วจากซ้ายไปขวา แต่ด้วยฟีเจอร์นี้คุณสามารถลากแอพฯ เพื่อแบ่งหน้าจอในการดูแอพฯตัวอื่นๆ ได้ ในขณะที่แอพฯตัวปัจจุบันยังคงทำงานอยู่ แม้จะถูกย่อให้เหลือพื้นที่ในการทำงานเล็กลงไปก็ตาม
อินเตอร์เฟซของ Internet Explorer 10 ได้รับการออกแบบให้สนับสนุนการทำงานในระบบสัมผัส ในขณะที่รองรับแอพพลิเคชันที่พัฒนาด้วย HTML5 และการเร่งการทำงานกราฟิกด้วยฮาร์ดแวร์ทีมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นตามที่ได้มีรายงานข่าวไปแล้วก่อนหน้านี้
และสำหรับหน้าจอสัมผัสขนาดใหญ่ ไมโครซอฟท์ได้ออกแบบ"คีย์บอร์ดเสมือนบนหน้าจอ" (On Screen Virtual keyboard) ที่สามารถใช้นิ้วสัมผัสได้สะดวกยิ่งขึ้น โดยแบ่งคีย์บอร์ดเป็นสองส่วน เพื่อให้ผู้ใช้สามารถพิมพ์ข้อความด้วยมือทั้งสองได้สะดวกยิ่งขึ้น
Windows 8 จะสนับสนุนการทำงานของซอฟต์แวร์ที่รันบน Windows 7 และระบบไฟล์ของพีซีทั่วไป ดังนั้น พีซีอื่นๆ ที่ต่อเชื่อมอยู่บนเครือข่าย ตลอดจนเซิร์ฟเวอร์จะสามารถเข้าถึงได้อย่างสมบูรณ์โดยอุปกรณ์พกพาทีทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Windows 8
ผู้บริหารแผนก Windows Exprerience ของไมโครซอฟท์กล่าวว่า "มันไม่ได้แค่ทำให้พีซี (windows) ทำงานในระบบสัมผัส แต่ประสบการณ์ที่ผู้ใช้จะได้รับจาก Windows 8 คือความลื่นไหลในการใช้งานแอพพลิเคชน และอุปกรณ์ต่างๆ จากการที่แพลตฟอร์มพีซีวันนี้มีความหลากหลายมากขึ้น ส่วนติดต่อผู้ใช้ (UI) และแอพฯ ใหม่ๆ จะสามารถทำงานกับคีย์บอร์ด และเมาส์ หรือไม่ก็ได้ รวมถึงขนาด และความละเอียดของหน้าจอที่แตกต่าง จากแท็บเล็ตขนาดเล็กไปจนถึงโน้ตบุ๊ค เดสก์ทอป หรือ ออลอินวันพีซี และแม้แต่จอขนาดใหญ่ทีใช้ในห้องเรียน พีซีหลายร้อยล้านเครื่องจะทำงานด้วยส่วนติดต่อผู้ใช้ Windows 8 ได้อย่างลงตัว ไม่ว่าอุปกรณ์ของคุณจะเป็นอะไรก็ตาม"
ป้ายกำกับ:ตลก, น่าสนใจ, เก๋
แวดวงไอที
วันพุธที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2554
"DS Lite" ลดเหลือ $100 ตระกูล DS ทำยอด 48.9 ล้านเครื่องในอเมริกา
"DS Lite" ลดเหลือ $100 ตระกูล DS ทำยอด 48.9 ล้านเครื่องในอเมริกา: "นินเทนโดประกาศลดราคาเครื่องเกมพกพา DS lite เหลือ 100 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 3,000 บาท พร้อมระบุว่าเครื่องเกมตระกูล DS ทำยอดขายรวมในอเมริกาได้ถึง 48.9 ล้านเครื่อง แจกแจกรายชื่อเกมมาริโอบนเครื่อง DS 6 เกมที่ทำยอดขายได้อย่างสวยงามในอเมริกา"
นินเทนโดประกาศลดราคาเครื่องเกมพกพา DS lite เหลือ 100 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 3,000 บาท พร้อมระบุว่าเครื่องเกมตระกูล DS ทำยอดขายรวมในอเมริกาได้ถึง 48.9 ล้านเครื่อง แจกแจกรายชื่อเกมมาริโอบนเครื่อง DS 6 เกมที่ทำยอดขายได้อย่างสวยงามในอเมริกา
เมื่อเดือนที่แล้วมีกระแสข่าวลือออกมาระบุว่าเครื่อง "DS lite" เตรียมจะหยุดการผลิต ล่าสุดนินเทนโด ออกมาเปิดเผยข้อมูลว่าเครื่องเกมพกพาดังกล่าวจะยังคงผลิตและขายในตลาดอเมริกาด้วยราคาที่ต่ำลงเหลือ 99.99 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 3,000 บาท ซึ่งเป็นการลดลงมาจากราคาเดิมถึง 30 เหรียญสหรัฐ มีผล 5 มิถุนายนนี้ ก่อนงานแถลงข่าวที่จะจัดขึ้นในมหกรรมเกม E3
"Reggie Fils-Aime" ประธานนินเทนโดอเมริกา กล่าวถึงการลดราคาเครื่องดังกล่าวว่า "การปรับลดราคาครั้งนี้จะช่วยให้เครื่อง DS lite เข้าถึงผู้บริโภคได้มากขึ้น"
การประกาศลดราเครื่อง DS lite มาพร้อมกับข่าวตัวเลขความสำเร็จของนินเทนโดในตลาดอเมริกา จนถึงวันนี้เครื่องเกมในตระกูล DS สามารถทำยอดขายในอเมริการวมกันได้มากกว่า 48.9 ล้านเครื่อง โดยนินเทนโดระบุว่าตัวเลขดังกล่าวส่งผลให้ DS เป็นเครื่องเกมที่ทำยอดขายได้ดีที่สุดในประวัติศาสตร์อเมริกา นอกจากนั้นนินเทนโดยังเปิดเผยตัวเลข 6 เกมมาริโอบนเครื่อง DS ที่ทำยอดขายได้ดีที่สุดในอเมริกาเมื่อสิ้นสุดเดือนเมษายน ปี 2011
เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองความสำเร็จของเกมมาริโอสุดฮิตบนเครื่อง DS นินเทนโดได้มีการปรับโฉมกล่องเกมมาริโอทั้ง 6 เกมข้างต้นให้มีสีแดงเห็นได้ชัดอยู่รอบกล่องเกม นอกจากนั้นนินเทนโดยังระบุอีกด้วยว่าตั้งแต่ปี 1995 มีเกมมาริโอถึง 31 เกมที่ทำยอดขายได้ถึง 1 ล้านชุด และยังมีเกมจากซีรีส์ซูเปอร์ มาริโอ ทำยอดขายรวมกันทั่วโลกได้ถึง 262 ล้านชุด
นินเทนโดประกาศลดราคาเครื่องเกมพกพา DS lite เหลือ 100 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 3,000 บาท พร้อมระบุว่าเครื่องเกมตระกูล DS ทำยอดขายรวมในอเมริกาได้ถึง 48.9 ล้านเครื่อง แจกแจกรายชื่อเกมมาริโอบนเครื่อง DS 6 เกมที่ทำยอดขายได้อย่างสวยงามในอเมริกา
เมื่อเดือนที่แล้วมีกระแสข่าวลือออกมาระบุว่าเครื่อง "DS lite" เตรียมจะหยุดการผลิต ล่าสุดนินเทนโด ออกมาเปิดเผยข้อมูลว่าเครื่องเกมพกพาดังกล่าวจะยังคงผลิตและขายในตลาดอเมริกาด้วยราคาที่ต่ำลงเหลือ 99.99 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 3,000 บาท ซึ่งเป็นการลดลงมาจากราคาเดิมถึง 30 เหรียญสหรัฐ มีผล 5 มิถุนายนนี้ ก่อนงานแถลงข่าวที่จะจัดขึ้นในมหกรรมเกม E3
"Reggie Fils-Aime" ประธานนินเทนโดอเมริกา กล่าวถึงการลดราคาเครื่องดังกล่าวว่า "การปรับลดราคาครั้งนี้จะช่วยให้เครื่อง DS lite เข้าถึงผู้บริโภคได้มากขึ้น"
การประกาศลดราเครื่อง DS lite มาพร้อมกับข่าวตัวเลขความสำเร็จของนินเทนโดในตลาดอเมริกา จนถึงวันนี้เครื่องเกมในตระกูล DS สามารถทำยอดขายในอเมริการวมกันได้มากกว่า 48.9 ล้านเครื่อง โดยนินเทนโดระบุว่าตัวเลขดังกล่าวส่งผลให้ DS เป็นเครื่องเกมที่ทำยอดขายได้ดีที่สุดในประวัติศาสตร์อเมริกา นอกจากนั้นนินเทนโดยังเปิดเผยตัวเลข 6 เกมมาริโอบนเครื่อง DS ที่ทำยอดขายได้ดีที่สุดในอเมริกาเมื่อสิ้นสุดเดือนเมษายน ปี 2011
- New Super Mario Bros.: มากกว่า 9.25 ล้านชุด
- Mario Kart DS: มากกว่า 7.40 ล้านชุด
- Super Mario 64 DS: มากกว่า 4.34 ล้านชุด
- Mario Party DS: มากกว่า 3.27 ล้านชุด
- Mario & Luigi: Bowser's Inside Story: มากกว่า 1.98 ล้านชุด
- Mario vs. Donkey Kong: Mini-Land Mayhem!: มากกว่า 1.01 ล้านชุด
เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองความสำเร็จของเกมมาริโอสุดฮิตบนเครื่อง DS นินเทนโดได้มีการปรับโฉมกล่องเกมมาริโอทั้ง 6 เกมข้างต้นให้มีสีแดงเห็นได้ชัดอยู่รอบกล่องเกม นอกจากนั้นนินเทนโดยังระบุอีกด้วยว่าตั้งแต่ปี 1995 มีเกมมาริโอถึง 31 เกมที่ทำยอดขายได้ถึง 1 ล้านชุด และยังมีเกมจากซีรีส์ซูเปอร์ มาริโอ ทำยอดขายรวมกันทั่วโลกได้ถึง 262 ล้านชุด
ป้ายกำกับ:ตลก, น่าสนใจ, เก๋
แวดวงไอที
"บนเตียง-ห้องน้ำ" สถานที่ใช้งานสมาร์ทโฟน-แท็บเล็ตสุดฮิต
"บนเตียง-ห้องน้ำ" สถานที่ใช้งานสมาร์ทโฟน-แท็บเล็ตสุดฮิต: การสำรวจโดยบริษัท Nielsen พบว่าสถานที่ที่เจ้าของอุปกรณ์เก็ดเจ็ตเช่นสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต และเครื่องอ่านอีบุ๊ก จะนำอุปกรณ์ในครอบครองไปใช้งานคือบนเตียงและในห้องน้ำ โดยเวลาทองของการใช้งานสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตคือ"ขณะดูทีวี" และเครื่องอ่านอีบุ๊กคือก่อนเข้านอน
ผลการวิจัยนี้มาจากบริษัท Nielsen ซึ่งระบุว่าดำเนินการสำรวจกลุ่มผู้เป็นเจ้าของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์พกพา 12,000 รายในสหรัฐฯ เพื่อศึกษาพฤติกรรมการใช้งานอุปกรณ์เหล่านี้ของผู้บริโภค ว่านิยมใช้งานนานเท่าใด เมื่อไร และที่ไหนมากที่สุด
ในแง่ของช่วงเวลาใช้ การสำรวจพบว่า 68% ของผู้ใช้สมาร์ทโฟนและ 70% ของผู้ใช้แท็บเล็ตจะง่วนอยู่กับอุปกรณ์ของตัวเองขณะดูทีวีบ่อยที่สุด แปลว่าอุปกรณ์เหล่านี้คือ "บัดดี้คนใหม่" ของทีวีในยุคดิจิตอล
ในแง่ของสถานที่ หนอนหนังสือผู้ถือครองอีรีดเดอร์ยังยืด"เตียง"เป็นสถานที่อ่านหนังสือยอดนิยมเหมือนหนังสือเล่ม โดย 61% ของผู้อ่านอีรีดเดอร์นิยมอ่านหนังสือก่อนนอน มากกว่า 57% ของผู้ใช้แท็บเล็ต และ 51% ของผู้ใช้สมาร์ทโฟน
นอกจากนี้ ผลสำรวจยังทำให้ไม่น่าแปลกใจเลยเมื่อหลายคนบ่นว่าทำสมาร์ทโฟนตกโถส้วม เพราะการสำรวจพบว่า 28% ของผู้ใช้สมาร์ทโฟนนิยมใช้งานโทรศัพท์ในห้องน้ำ มากกว่า 25% ของผู้ใช้แท็บเล็ต และ 17% ของผู้ใช้อีรีดเดอร์
ที่น่าสนใจคือ แม้จะมีการออกกฏห้ามใช้งานสมาร์ทโฟนในห้องเรียนของหลายโรงเรียน แต่ผู้ใช้สมาร์ทโฟนมากกว่า 23% ยอมรับว่านำไปใช้งานในชั้นเรียนหรือห้องประชุม เช่นเดียวกับ 24% ของผู้ใช้แท็บเล็ตและ 10% ของผู้อ่านอีรีดเดอร์ซึ่งยอมรับว่าทำอย่างเดียวกัน
ในแง่ของสัดส่วนเวลาการใช้งาน ผู้ใช้สมาร์ทโฟนส่วนใหญ่บอกว่าเวลาการใช้งานสมาร์ทโฟนกว่า 20% นั้นเป็นการใช้งานขณะดูทีวี สูงกว่า 11% ซึ่งถูกใช้ขณะนอนเล่นบนเตียง
ขณะที่ชาวแท็บเล็ตนั้นใช้แท็บเล็ตหน้าทีวีนานกว่าใคร การสำรวจพบว่า 30% ของเวลาการใช้แท็บเล็ตทั้งหมดนั้นถูกละลายไประหว่างอยู่หน้าทีวี โดยการใช้งานขณะนอนเล่นนั้นคิดเป็นสัดส่วน 21% ของเวลาใช้งานทั้งหมด
อาจเป็นเพราะอ่านหนังสือหน้าทีวีแล้วไม่มีสมาธิ ชาวอีรีดเดอร์จึงใช้อีรีดเดอร์หน้าทีวีเป็นเวลาสั้นๆ คิดเป็นสัดส่วน 15% ของเวลาทั้งหมด น้อยมากเมื่อเทียบกับเวลา 37% ที่หมดไปกับการอ่านขณะนอนบนเตียง
นอกจากนี้ สมาร์ทโฟนยังเป็นอุปกรณ์ที่ถูกใช้ระหว่างการเดินทางมากที่สุด โดย 47% โทรศัพท์และเล่นเกมบนรถ มากกว่าผู้ใช้แท็บเล็ต 20% และผู้ใช้เครื่องอ่านหนังสืออิเล็กทรอนิกส์หรือ E-reader 11% เท่านั้นที่ใช้อุปกรณ์บนรถ
ภาวนาให้ผู้ใช้กลุ่มนี้ไม่ได้ขับรถไป เล่น Angry Birds ไปก็แล้วกัน
ผลการวิจัยนี้มาจากบริษัท Nielsen ซึ่งระบุว่าดำเนินการสำรวจกลุ่มผู้เป็นเจ้าของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์พกพา 12,000 รายในสหรัฐฯ เพื่อศึกษาพฤติกรรมการใช้งานอุปกรณ์เหล่านี้ของผู้บริโภค ว่านิยมใช้งานนานเท่าใด เมื่อไร และที่ไหนมากที่สุด
ในแง่ของช่วงเวลาใช้ การสำรวจพบว่า 68% ของผู้ใช้สมาร์ทโฟนและ 70% ของผู้ใช้แท็บเล็ตจะง่วนอยู่กับอุปกรณ์ของตัวเองขณะดูทีวีบ่อยที่สุด แปลว่าอุปกรณ์เหล่านี้คือ "บัดดี้คนใหม่" ของทีวีในยุคดิจิตอล
ในแง่ของสถานที่ หนอนหนังสือผู้ถือครองอีรีดเดอร์ยังยืด"เตียง"เป็นสถานที่อ่านหนังสือยอดนิยมเหมือนหนังสือเล่ม โดย 61% ของผู้อ่านอีรีดเดอร์นิยมอ่านหนังสือก่อนนอน มากกว่า 57% ของผู้ใช้แท็บเล็ต และ 51% ของผู้ใช้สมาร์ทโฟน
นอกจากนี้ ผลสำรวจยังทำให้ไม่น่าแปลกใจเลยเมื่อหลายคนบ่นว่าทำสมาร์ทโฟนตกโถส้วม เพราะการสำรวจพบว่า 28% ของผู้ใช้สมาร์ทโฟนนิยมใช้งานโทรศัพท์ในห้องน้ำ มากกว่า 25% ของผู้ใช้แท็บเล็ต และ 17% ของผู้ใช้อีรีดเดอร์
ที่น่าสนใจคือ แม้จะมีการออกกฏห้ามใช้งานสมาร์ทโฟนในห้องเรียนของหลายโรงเรียน แต่ผู้ใช้สมาร์ทโฟนมากกว่า 23% ยอมรับว่านำไปใช้งานในชั้นเรียนหรือห้องประชุม เช่นเดียวกับ 24% ของผู้ใช้แท็บเล็ตและ 10% ของผู้อ่านอีรีดเดอร์ซึ่งยอมรับว่าทำอย่างเดียวกัน
ในแง่ของสัดส่วนเวลาการใช้งาน ผู้ใช้สมาร์ทโฟนส่วนใหญ่บอกว่าเวลาการใช้งานสมาร์ทโฟนกว่า 20% นั้นเป็นการใช้งานขณะดูทีวี สูงกว่า 11% ซึ่งถูกใช้ขณะนอนเล่นบนเตียง
ขณะที่ชาวแท็บเล็ตนั้นใช้แท็บเล็ตหน้าทีวีนานกว่าใคร การสำรวจพบว่า 30% ของเวลาการใช้แท็บเล็ตทั้งหมดนั้นถูกละลายไประหว่างอยู่หน้าทีวี โดยการใช้งานขณะนอนเล่นนั้นคิดเป็นสัดส่วน 21% ของเวลาใช้งานทั้งหมด
อาจเป็นเพราะอ่านหนังสือหน้าทีวีแล้วไม่มีสมาธิ ชาวอีรีดเดอร์จึงใช้อีรีดเดอร์หน้าทีวีเป็นเวลาสั้นๆ คิดเป็นสัดส่วน 15% ของเวลาทั้งหมด น้อยมากเมื่อเทียบกับเวลา 37% ที่หมดไปกับการอ่านขณะนอนบนเตียง
นอกจากนี้ สมาร์ทโฟนยังเป็นอุปกรณ์ที่ถูกใช้ระหว่างการเดินทางมากที่สุด โดย 47% โทรศัพท์และเล่นเกมบนรถ มากกว่าผู้ใช้แท็บเล็ต 20% และผู้ใช้เครื่องอ่านหนังสืออิเล็กทรอนิกส์หรือ E-reader 11% เท่านั้นที่ใช้อุปกรณ์บนรถ
ภาวนาให้ผู้ใช้กลุ่มนี้ไม่ได้ขับรถไป เล่น Angry Birds ไปก็แล้วกัน
ป้ายกำกับ:ตลก, น่าสนใจ, เก๋
แวดวงไอที
"Windows 8" มาแน่ปีหน้า
"Windows 8" มาแน่ปีหน้า: "ซีอีโอไมโครซอฟท์ประกาศในงานประชุมนักพัฒนาที่ประเทศญี่ปุ่น ว่าระบบปฏิบัติการวินโดวส์เวอร์ชันหน้า 'Windows 8' สำหรับคอมพิวเตอร์เดสก์ท็อปและแท็บเล็ตจะแจ้งเกิดแน่นอนในปี 2012 โดยการันตีว่าการอัปเดตระบบปฏิบัติการสำหรับโทรศัพท์มือถือ 'Windows Phone 7' ที่กำลังจะถูกเปิดตัวในชื่อ "Mango" นั้นอุดมไปด้วยความสามารถใหม่มากกว่า 500 จุด"
สตีฟ บอลเมอร์ ซีอีโอไมโครซอฟท์กล่าวถึงความคืบหน้าในการพัฒนาระบบปฏิบัติการเวอร์ชันถัดไปของบริษัทไว้บนเวทีงาน Microsoft Developer Forum ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ว่าไมโครซอฟท์กำลังเร่งมือพัฒนา Windows 8 เพื่อทันเปิดตัวในปีหน้าหรือ 2012
"จากการพัฒนาของเราตลอดปีนี้ ผู้ใช้ทุกคนจะได้เห็นทั้งซอฟต์แวร์ Windows 8 แท็บเล็ต คอมพิวเตอร์พีซี และอุปกรณ์เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตพกพาขนาดเล็กอีกหลายรูปแบบ"
วินโดวส์เวอร์ชันหน้าของไมโครซอฟท์หรือที่มีชื่อเรียกว่า Windows 8 นั้นถูกร่ำลือบนโลกออนไลน์มาตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา หลายข่าวลือระบุว่า Windows 8 จะมาพร้อมร้านแอปสโตร์นาม Windows App Store ซึ่งผู้ใช้สามารถดึงไลเซนส์ของซอฟต์แวร์ไปใช้งานบนคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นได้ รวมถึงการดึงการตั้งค่าต่างๆเช่น พื้นหลัง ธีม ภาษา เครือข่าย ไปใช้กับ Windows 8 เครื่องอื่นได้ โดยจะเพิ่มความสามารถการรองรับภาพวิดีโอและการแสดงผลภาพ 3 มิติ แถมยังสนับสนุนการเชื่อมต่อเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ด้วย
ที่น่าสนใจคือข่าวลือที่ระบุว่า ไมโครซอฟท์อาจเปิดตัว Windows 8 เวอร์ชันสำหรับแท็บเล็ตที่ใช้ชิป ARM ก่อน แล้วจึงเปิดตัวเวอร์ชันสำหรับคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ อย่างไรก็ตาม งานนี้ซีอีโอไมโครซอฟท์ไม่ให้รายละเอียดว่าข่าวลือใดเป็นจริงหรือเท็จ โดยกล่าวถึงแต่เทคโนโลยีที่ไมโครซอฟท์กำลังให้ความสนใจในขณะนี้
บอลเมอร์ระบุว่า หนึ่งในหลายเทคโนโลยีที่ไมโครซอฟท์กำลังเร่งศึกษาในขณะนี้คือ natural user interface หรือการทำให้ผู้ใช้สามารถพูด แสดงท่าทาง หรือสัมผัสบนอุปกรณ์โดยตรง โดยต้องการให้อุปกรณ์สามารถวิเคราะห์การเคลื่อนไหวของผู้ใช้ให้ดีกว่าที่อุปกรณ์เกม Kinect สามารถเพิ่มอรรถรสในการเล่นเกมในทุกวันนี้ ซึ่งขณะนี้ไมโครซอฟท์กำลังอยู่ระหว่างการใช้ชุดคำสั่งมาตรฐาน HTML และ JavaScript ในการพัฒนาเสิร์ชเอนจิ้นและส่วนติดต่อผู้ใช้ (user interface) ให้สามารถตอบสนองพฤติกรรมของผู้ใช้ได้
ยังมีเทคโนโลยีคลาวด์คอมพิวติงที่ไมโครซอฟท์จะให้ความสนใจต่อเนื่องนับจากนี้ จุดนี้บอลเมอร์ยกบริการโทรศัพท์ผ่านอินเทอร์เน็ตซึ่งไมโครซอฟท์เพิ่งซื้อมาในราคา 8.5 พันล้านเหรียญสหรัฐอย่าง "สไกป์ (Skype)" มาพูดถึงในฐานะหนึ่งในสิ่งที่แสดงว่าไมโครซอฟท์ให้ความสำคัญกับการพัฒนาเทคโนโลยีคลาวด์อย่างจริงจัง
คาดว่าข้อมูล Window 8 จะถูกเปิดเผยมากขึ้นในงานประชุม All Things Digital ซึ่งมีกำหนดจัดขึ้นที่แคลิฟอร์เนียวันที่ 31 พฤษภาคมถึง 2 มิถุนายน โดยผู้บริหารไมโครซอฟท์ที่จะแถลงในเวทีนี้คือ Steven Sinofsky ประธานฝ่ายวินโดวส์ซึ่งจะนำข้อมูลวินโดวส์เวอร์ชันใหม่มาเปิดเผยอย่างเป็นทางการ
นอกจาก Windows 8 บอลเมอร์ยังพูดถึง Windows Phone7 ว่าจะมีการเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่มากกว่า 500 จุดภายใต้ชื่อรหัสโค้ดเนมว่า Mango โดยทั้งหมดจะถูกเปิดเผยในงานแถลงข่าวซึ่งไมโครซอฟท์จะจัดขึ้นที่นิวยอร์กช่วงวันอังคารที่ 24 พฤษภาคมตามเวลาสหรัฐฯ
สำหรับการเยือนญี่ปุ่นครั้งนี้ บอลเมอร์ระบุว่าเป็นการเดินทางที่ทิ้งห่างการเยือนแดนปลาดิบครั้งที่แล้วราว 18 เดือน ซึ่งเป็นการเยือนครั้งที่นานที่สุดในประวัติการทำงาน 30 ปีกับไมโครซอฟท์ โดยย้ำว่าปีนี้เป็นปีที่ไมโครซอฟท์ดำเนินธุรกิจในประเทศญี่ปุ่นครบรอบ 25 ปีพอดี พร้อมกับขอบคุณพันธมิตรทุกรายที่ให้การสนับสนุนไมโครซอฟท์เสมอมา
สตีฟ บอลเมอร์ ซีอีโอไมโครซอฟท์กล่าวถึงความคืบหน้าในการพัฒนาระบบปฏิบัติการเวอร์ชันถัดไปของบริษัทไว้บนเวทีงาน Microsoft Developer Forum ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ว่าไมโครซอฟท์กำลังเร่งมือพัฒนา Windows 8 เพื่อทันเปิดตัวในปีหน้าหรือ 2012
"จากการพัฒนาของเราตลอดปีนี้ ผู้ใช้ทุกคนจะได้เห็นทั้งซอฟต์แวร์ Windows 8 แท็บเล็ต คอมพิวเตอร์พีซี และอุปกรณ์เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตพกพาขนาดเล็กอีกหลายรูปแบบ"
วินโดวส์เวอร์ชันหน้าของไมโครซอฟท์หรือที่มีชื่อเรียกว่า Windows 8 นั้นถูกร่ำลือบนโลกออนไลน์มาตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา หลายข่าวลือระบุว่า Windows 8 จะมาพร้อมร้านแอปสโตร์นาม Windows App Store ซึ่งผู้ใช้สามารถดึงไลเซนส์ของซอฟต์แวร์ไปใช้งานบนคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นได้ รวมถึงการดึงการตั้งค่าต่างๆเช่น พื้นหลัง ธีม ภาษา เครือข่าย ไปใช้กับ Windows 8 เครื่องอื่นได้ โดยจะเพิ่มความสามารถการรองรับภาพวิดีโอและการแสดงผลภาพ 3 มิติ แถมยังสนับสนุนการเชื่อมต่อเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ด้วย
ที่น่าสนใจคือข่าวลือที่ระบุว่า ไมโครซอฟท์อาจเปิดตัว Windows 8 เวอร์ชันสำหรับแท็บเล็ตที่ใช้ชิป ARM ก่อน แล้วจึงเปิดตัวเวอร์ชันสำหรับคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ อย่างไรก็ตาม งานนี้ซีอีโอไมโครซอฟท์ไม่ให้รายละเอียดว่าข่าวลือใดเป็นจริงหรือเท็จ โดยกล่าวถึงแต่เทคโนโลยีที่ไมโครซอฟท์กำลังให้ความสนใจในขณะนี้
บอลเมอร์ระบุว่า หนึ่งในหลายเทคโนโลยีที่ไมโครซอฟท์กำลังเร่งศึกษาในขณะนี้คือ natural user interface หรือการทำให้ผู้ใช้สามารถพูด แสดงท่าทาง หรือสัมผัสบนอุปกรณ์โดยตรง โดยต้องการให้อุปกรณ์สามารถวิเคราะห์การเคลื่อนไหวของผู้ใช้ให้ดีกว่าที่อุปกรณ์เกม Kinect สามารถเพิ่มอรรถรสในการเล่นเกมในทุกวันนี้ ซึ่งขณะนี้ไมโครซอฟท์กำลังอยู่ระหว่างการใช้ชุดคำสั่งมาตรฐาน HTML และ JavaScript ในการพัฒนาเสิร์ชเอนจิ้นและส่วนติดต่อผู้ใช้ (user interface) ให้สามารถตอบสนองพฤติกรรมของผู้ใช้ได้
ยังมีเทคโนโลยีคลาวด์คอมพิวติงที่ไมโครซอฟท์จะให้ความสนใจต่อเนื่องนับจากนี้ จุดนี้บอลเมอร์ยกบริการโทรศัพท์ผ่านอินเทอร์เน็ตซึ่งไมโครซอฟท์เพิ่งซื้อมาในราคา 8.5 พันล้านเหรียญสหรัฐอย่าง "สไกป์ (Skype)" มาพูดถึงในฐานะหนึ่งในสิ่งที่แสดงว่าไมโครซอฟท์ให้ความสำคัญกับการพัฒนาเทคโนโลยีคลาวด์อย่างจริงจัง
คาดว่าข้อมูล Window 8 จะถูกเปิดเผยมากขึ้นในงานประชุม All Things Digital ซึ่งมีกำหนดจัดขึ้นที่แคลิฟอร์เนียวันที่ 31 พฤษภาคมถึง 2 มิถุนายน โดยผู้บริหารไมโครซอฟท์ที่จะแถลงในเวทีนี้คือ Steven Sinofsky ประธานฝ่ายวินโดวส์ซึ่งจะนำข้อมูลวินโดวส์เวอร์ชันใหม่มาเปิดเผยอย่างเป็นทางการ
นอกจาก Windows 8 บอลเมอร์ยังพูดถึง Windows Phone7 ว่าจะมีการเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่มากกว่า 500 จุดภายใต้ชื่อรหัสโค้ดเนมว่า Mango โดยทั้งหมดจะถูกเปิดเผยในงานแถลงข่าวซึ่งไมโครซอฟท์จะจัดขึ้นที่นิวยอร์กช่วงวันอังคารที่ 24 พฤษภาคมตามเวลาสหรัฐฯ
สำหรับการเยือนญี่ปุ่นครั้งนี้ บอลเมอร์ระบุว่าเป็นการเดินทางที่ทิ้งห่างการเยือนแดนปลาดิบครั้งที่แล้วราว 18 เดือน ซึ่งเป็นการเยือนครั้งที่นานที่สุดในประวัติการทำงาน 30 ปีกับไมโครซอฟท์ โดยย้ำว่าปีนี้เป็นปีที่ไมโครซอฟท์ดำเนินธุรกิจในประเทศญี่ปุ่นครบรอบ 25 ปีพอดี พร้อมกับขอบคุณพันธมิตรทุกรายที่ให้การสนับสนุนไมโครซอฟท์เสมอมา
ป้ายกำกับ:ตลก, น่าสนใจ, เก๋
แวดวงไอที
10 ความจริงน่าทึ่งบนเฟซบุ๊ก : ผู้ใช้ 48% ดูเพจ"แฟนเก่า"บ่อยขึ้น
10 ความจริงน่าทึ่งบนเฟซบุ๊ก : ผู้ใช้ 48% ดูเพจ"แฟนเก่า"บ่อยขึ้น: "Pete Cashmore ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของเว็บล็อคข่าวไอทียอดฮิตอย่าง Mashable ซึ่งรับหน้าที่เขียนคอลัมน์เกี่ยวกับเครือข่ายสังคมและเทคโนโลยีให้ CNN.com ลงมือรวบรวมผลการสำรวจพฤติกรรมชาวเครือข่ายสังคมจนกลายเป็นบทความ 10 ความจริงน่าทึ่ง ที่แม้จะเป็นการทำสำรวจในสังคมอเมริกัน แต่บางข้อก็พบได้บ่อยในสังคมไทยเช่นกัน"
ป้ายกำกับ:ตลก, น่าสนใจ, เก๋
แวดวงไอที
ผู้ผลิต Angry Bird เตรียมเผยความสำเร็จ ให้ผู้สนใจติดตามผ่านทวิตเตอร์
ผู้ผลิต Angry Bird เตรียมเผยความสำเร็จ ให้ผู้สนใจติดตามผ่านทวิตเตอร์: "ฮิลล์ แอนด์ นอลตัน ดึงหัวเรือใหญ่ผู้ผลิตเกม Angry Bird จัดสัมมนาที่ประเทศอังกฤษ เล่าถึงเบื้องหลังความสำเร็จของเกมยอดฮิตแห่งปี เปิดให้ผู้ที่สนใจร่วมส่งคำถามผ่านแฮชแท็ก #HKCannes
บริษัท ฮิลล์ แอนด์ นอลตัน ผู้นำด้านที่ปรึกษาประชาสัมพันธ์ ร่วมมือกับบริษัท โรวิโอ โมบายล์ ผู้สร้างสรรค์เกมAngry Birds สุดฮิต เตรียมจัดงานสัมมนาหัวข้อ “สิ่งที่แบรนด์ต่างๆ สามารถเรียนรู้จากเกมที่ประสบความสำเร็จอย่างเป็นประวัติการณ์” ณ เทศกาล Cannes Lions International Festival of Creativity
งานสัมมนาในครั้งนี้มีไฮไลต์สำคัญ อยู่ที่ มร. ปีเตอร์ เวสเตอร์แบ็คก้า ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โรวิโอ โมบายล์ และผู้พัฒนาเกม Angry Birds จะมาเปิดเผยเรื่องราวแห่งความสำเร็จ เบื้องหลังเกมที่ได้รับความนิยมอย่างมหาศาล พร้อมทั้งกล่าวถึงสภาวการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปของอุตสาหกรรมโทรศัพท์เคลื่อนที่ นอกจากนี้ ภายในงานสัมมนาจะทำการเจาะลึกว่าการใช้กลศาสตร์ในการเล่มเกมสำหรับแอปพลิเคชันจะช่วยพลิกผันกลยุทธ์การสื่อสารให้กลายมาเป็นเรื่องสนุก และช่วยเพิ่มความผูกพันกับแบรนด์ได้อย่างไร
งานดังกล่าวจะจัดขึ้นในวันอังคารที่ 21 มิถุนายน 2554 เวลา 17.30 น. ณ โรงภาพยนตร์ Debussy Theatre ภายในสถานที่จัดงาน Palais des Festivals ประเทศอังกฤษ โดยจะเปิดโอกาสให้มีการตอบคำถามผ่านช่องทางของโซเชียล มีเดีย อย่าง ทวิตเตอร์ ซึ่งจะมี มิสอแมนด้า กร็อตตี้ ผู้อำนวยการระดับโลก ฝ่ายวางแผนกลยุทธ์ บริษัทฮิลล์ แอนด์ นอลตัน จะมาเป็นผู้ดำเนินรายการ ผู้ที่สนใจสามารถร่วมสนทนาผ่านแฮชแท็ก #HKCannes และติดตามความเคลื่อนไหวของการจัดงานในครั้งนี้ ได้ที่ @HillandKnowlton ทั้งก่อนเริ่มและระหว่างการจัดงาน
มิสแคนเดส คาสส์ หัวหน้าคณะที่ปรึกษา ฝ่ายวางแผนและกลยุทธ์อินเตอร์แอ็คทีฟ บริษัท ฮิลล์ แอนด์ นอลตัน กล่าวว่า เป็นประจำทุกปี ฮิลล์ แอนด์ นอลตัน จะเชิญวิทยากร ที่เป็นบุคคลนอกวงการเอเจนซี่ด้านการตลาด แต่มีความคิดสร้างสรรค์ หรือผลงานที่เป็นแรงบันดาลใจชั้นเลิศเข้าร่วมงานเทศกาล ณ เมืองคานส์ โดยในปี 2009 เราได้รับเกียรติจาก มร. บิซ สโตน ผู้ก่อตั้งทวิตเตอร์ และในปี 2010 เราได้รับเกียรติจาก มร.ชาร์ลี ท็อดด์ ผู้ก่อตั้ง Improv Everywhere ร่วมเป็นวิทยากร และในปี 2011 นี้ เกมธรรมดา ๆ เกมหนึ่งอย่าง Angry Birds ที่ได้กลายเป็นปรากฏการณ์ทางวัฒนธรรมครั้งสำคัญ ที่มีผู้ติดเกมนี้จำนวนมาก ทั้งนี้ เราเชื่อว่าผู้เข้าร่วมงานจะได้เรียนรู้ และเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์ และข้อมูลเชิงลึกของโรวิโอที่ทำให้ผู้คนคลั่งไคล้เกมนี้”
กิจกรรมการเรียนรู้ภายในงานเทศกาล Cannes Lions นำเสนองานสัมมนาระดับโลกถึง 57 รายการ ระหว่างการจัดงานทั้งสิ้น 7 วัน ณ Palais des Festivals ซึ่งการจัดงานในครั้งนี้ นับเป็นเวทีสำคัญสำหรับผู้นำทางความคิด และผู้เชี่ยวชาญทั้งหลายในวงการด้านการสื่อสารและประชาสัมพันธ์จากทั่วโลก ที่มารวมตัวกัน เพื่อแบ่งปันประสบการณ์ เสวนา และอภิปรายด้านความคิดสร้างสรรค์ทางการสื่อสารภายในงาน
บริษัท ฮิลล์ แอนด์ นอลตัน ผู้นำด้านที่ปรึกษาประชาสัมพันธ์ ร่วมมือกับบริษัท โรวิโอ โมบายล์ ผู้สร้างสรรค์เกมAngry Birds สุดฮิต เตรียมจัดงานสัมมนาหัวข้อ “สิ่งที่แบรนด์ต่างๆ สามารถเรียนรู้จากเกมที่ประสบความสำเร็จอย่างเป็นประวัติการณ์” ณ เทศกาล Cannes Lions International Festival of Creativity
งานสัมมนาในครั้งนี้มีไฮไลต์สำคัญ อยู่ที่ มร. ปีเตอร์ เวสเตอร์แบ็คก้า ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โรวิโอ โมบายล์ และผู้พัฒนาเกม Angry Birds จะมาเปิดเผยเรื่องราวแห่งความสำเร็จ เบื้องหลังเกมที่ได้รับความนิยมอย่างมหาศาล พร้อมทั้งกล่าวถึงสภาวการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปของอุตสาหกรรมโทรศัพท์เคลื่อนที่ นอกจากนี้ ภายในงานสัมมนาจะทำการเจาะลึกว่าการใช้กลศาสตร์ในการเล่มเกมสำหรับแอปพลิเคชันจะช่วยพลิกผันกลยุทธ์การสื่อสารให้กลายมาเป็นเรื่องสนุก และช่วยเพิ่มความผูกพันกับแบรนด์ได้อย่างไร
งานดังกล่าวจะจัดขึ้นในวันอังคารที่ 21 มิถุนายน 2554 เวลา 17.30 น. ณ โรงภาพยนตร์ Debussy Theatre ภายในสถานที่จัดงาน Palais des Festivals ประเทศอังกฤษ โดยจะเปิดโอกาสให้มีการตอบคำถามผ่านช่องทางของโซเชียล มีเดีย อย่าง ทวิตเตอร์ ซึ่งจะมี มิสอแมนด้า กร็อตตี้ ผู้อำนวยการระดับโลก ฝ่ายวางแผนกลยุทธ์ บริษัทฮิลล์ แอนด์ นอลตัน จะมาเป็นผู้ดำเนินรายการ ผู้ที่สนใจสามารถร่วมสนทนาผ่านแฮชแท็ก #HKCannes และติดตามความเคลื่อนไหวของการจัดงานในครั้งนี้ ได้ที่ @HillandKnowlton ทั้งก่อนเริ่มและระหว่างการจัดงาน
มิสแคนเดส คาสส์ หัวหน้าคณะที่ปรึกษา ฝ่ายวางแผนและกลยุทธ์อินเตอร์แอ็คทีฟ บริษัท ฮิลล์ แอนด์ นอลตัน กล่าวว่า เป็นประจำทุกปี ฮิลล์ แอนด์ นอลตัน จะเชิญวิทยากร ที่เป็นบุคคลนอกวงการเอเจนซี่ด้านการตลาด แต่มีความคิดสร้างสรรค์ หรือผลงานที่เป็นแรงบันดาลใจชั้นเลิศเข้าร่วมงานเทศกาล ณ เมืองคานส์ โดยในปี 2009 เราได้รับเกียรติจาก มร. บิซ สโตน ผู้ก่อตั้งทวิตเตอร์ และในปี 2010 เราได้รับเกียรติจาก มร.ชาร์ลี ท็อดด์ ผู้ก่อตั้ง Improv Everywhere ร่วมเป็นวิทยากร และในปี 2011 นี้ เกมธรรมดา ๆ เกมหนึ่งอย่าง Angry Birds ที่ได้กลายเป็นปรากฏการณ์ทางวัฒนธรรมครั้งสำคัญ ที่มีผู้ติดเกมนี้จำนวนมาก ทั้งนี้ เราเชื่อว่าผู้เข้าร่วมงานจะได้เรียนรู้ และเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์ และข้อมูลเชิงลึกของโรวิโอที่ทำให้ผู้คนคลั่งไคล้เกมนี้”
กิจกรรมการเรียนรู้ภายในงานเทศกาล Cannes Lions นำเสนองานสัมมนาระดับโลกถึง 57 รายการ ระหว่างการจัดงานทั้งสิ้น 7 วัน ณ Palais des Festivals ซึ่งการจัดงานในครั้งนี้ นับเป็นเวทีสำคัญสำหรับผู้นำทางความคิด และผู้เชี่ยวชาญทั้งหลายในวงการด้านการสื่อสารและประชาสัมพันธ์จากทั่วโลก ที่มารวมตัวกัน เพื่อแบ่งปันประสบการณ์ เสวนา และอภิปรายด้านความคิดสร้างสรรค์ทางการสื่อสารภายในงาน
ป้ายกำกับ:ตลก, น่าสนใจ, เก๋
แวดวงไอที
ยอดขาย"เน็ตบุ๊ค"จะทะลุ 100 ล้านเครื่อง
ยอดขาย"เน็ตบุ๊ค"จะทะลุ 100 ล้านเครื่อง: " นอกจาก Intel จะเปิดตัวโน้ตบุ๊คสายพันธุ์ใหม่อย่าง Ultrabook ที่จะทำให้ผู้บริโภคที่กำลังรู้สับสนจนแยกแยะไม่ออกระหว่างโน้ตบุ๊ค แท็บเล็ต และสมาร์ทโฟน ล่าสุดทางบริษัทยังได้เปิดเผยข้อมูลที่่น่าสนใจเกี่ยวกับอนาคตของเน็ตบุ๊ค (netbook) อีกด้วย"
Intel กล่าวว่า ยอดขาย "เน็ตบุ๊ค" ทั่วโลกกำลังจะผ่านหลัก 100 ล้านเครื่อง และจะยังคงรุกตลาดต่อไปท่ามกลางกระแสความนิยมของแท็บเล็ต โดยทางบริษัทไม่เชื่อว่า มันถึงจุดสิ้นสุดของเน็ตบุ๊คแล้ว ตรงกันข้าม Intel มั่นใจว่า เน็ตบุ๊คจะเติบโตในตลาด โดยยอดขายของพวกมันจะแตะที่ 100 ล้านเครื่องภายใไม่เกิน 3 ปีจากนี้ ซึ่งจะมีการใช้งานอย่างแพร่หลาย และรวดเร็วมาก
สาเหตุที่ทำให้ Intel มั่นใจขนาดนั้นก็เนื่องจาก ทางบริษัทจะใช้ Cedar Trail Atom โพรเซสเซอร์รุ่นใหม่ที่จะออกมาปลายปีนี้กับเน็ตบุ๊ค โดยคุณสมบัติของชิปจะทำให้ผู้ใช้ได้สัมผัสเน็ตบุ๊คที่สามารถใช้งานได้ต่อเนื่องนานนับ 10 ชั่วโมง สแตนด์บายได้ 30 วัน อีกทั้งยังสามารถส่งไฟล์มัลติมีเดียแบบไร้สาย (WiDi) ไปยังอุปกรณ์ต่างๆ อย่างเช่น HDTV ได้อีกด้วย นอกจากนี้ เน็ตบุ๊ครุ่นใหม่ยังสามรถอัพเดทการทำงานของแอพพลิเคชันต่างๆ ได้เองแม้ในขณะทีมันทำงานในโหมดสแดนด์บาย ไม่ว่าจะเป็นอีเมล์ เฟซบุ๊ค ทวิตเตอร์ (คล้ายๆ notification บนสมาร์ทโฟน) จุดเด่นของเน็ตบุ๊ครุ่นใหม่ที่น่าจะทำให้ผู้ใช้หันมาสนใจมันมากขึ้นอีกประการหนึ่งก็คือ ดีไซน์ที่บางเบาแบบ MacBook Air (ไม่ถึง 1 ซม.) ในขณะที่มีน้ำหนักแค่ 680 กรัม สำหรับระบบปฏิบัติการที่จะใช้กับเน็ตบุ๊ค Cedar Trail Atom ก็ได้แก่ Windows, Chrome OS และ MeeGo
Intel กล่าวว่า ยอดขาย "เน็ตบุ๊ค" ทั่วโลกกำลังจะผ่านหลัก 100 ล้านเครื่อง และจะยังคงรุกตลาดต่อไปท่ามกลางกระแสความนิยมของแท็บเล็ต โดยทางบริษัทไม่เชื่อว่า มันถึงจุดสิ้นสุดของเน็ตบุ๊คแล้ว ตรงกันข้าม Intel มั่นใจว่า เน็ตบุ๊คจะเติบโตในตลาด โดยยอดขายของพวกมันจะแตะที่ 100 ล้านเครื่องภายใไม่เกิน 3 ปีจากนี้ ซึ่งจะมีการใช้งานอย่างแพร่หลาย และรวดเร็วมาก
สาเหตุที่ทำให้ Intel มั่นใจขนาดนั้นก็เนื่องจาก ทางบริษัทจะใช้ Cedar Trail Atom โพรเซสเซอร์รุ่นใหม่ที่จะออกมาปลายปีนี้กับเน็ตบุ๊ค โดยคุณสมบัติของชิปจะทำให้ผู้ใช้ได้สัมผัสเน็ตบุ๊คที่สามารถใช้งานได้ต่อเนื่องนานนับ 10 ชั่วโมง สแตนด์บายได้ 30 วัน อีกทั้งยังสามารถส่งไฟล์มัลติมีเดียแบบไร้สาย (WiDi) ไปยังอุปกรณ์ต่างๆ อย่างเช่น HDTV ได้อีกด้วย นอกจากนี้ เน็ตบุ๊ครุ่นใหม่ยังสามรถอัพเดทการทำงานของแอพพลิเคชันต่างๆ ได้เองแม้ในขณะทีมันทำงานในโหมดสแดนด์บาย ไม่ว่าจะเป็นอีเมล์ เฟซบุ๊ค ทวิตเตอร์ (คล้ายๆ notification บนสมาร์ทโฟน) จุดเด่นของเน็ตบุ๊ครุ่นใหม่ที่น่าจะทำให้ผู้ใช้หันมาสนใจมันมากขึ้นอีกประการหนึ่งก็คือ ดีไซน์ที่บางเบาแบบ MacBook Air (ไม่ถึง 1 ซม.) ในขณะที่มีน้ำหนักแค่ 680 กรัม สำหรับระบบปฏิบัติการที่จะใช้กับเน็ตบุ๊ค Cedar Trail Atom ก็ได้แก่ Windows, Chrome OS และ MeeGo
ป้ายกำกับ:ตลก, น่าสนใจ, เก๋
แวดวงไอที
Twitter ให้คุณเพิ่มปุ่ม Follow บนเว็บได้
Twitter ให้คุณเพิ่มปุ่ม Follow บนเว็บได้: " ทวิตเตอร์ (Twitter) กำลังพยายามเร่งเครื่องอย่างหนัก ในการที่จะทำให้บริการข้อความสั้นของทางบริษัทเอื้ออำนวยให้ผู้ใช้สามารถติดตามบุคคล ตลอดจนธุรกิจต่างๆ ที่น่าสนใจบนโลกใบนี้ได้เร็วขึ้น และง่ายขึ้น ล่าสุด Twitter ได้เพิ่มคุณสมบัติการทำงานใหม่ โดยเปิดโอกาสให้เว็บไซต์ต่างๆ สามารถติดปุ่ม Follow เพื่อให้ผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์สามารถคลิก และตามติดได้ทันที"
Twitter เพิ่มบริการใหม่สำหรับเจ้าของเว็บไซต์ที่เป็นคนดัง และธุรกิจต่างๆ สามารถเพิ่มจำนวนผู้ติดตาม (followers) ได้เร็วขึ้น โดยวันนี้ เว็บไซต์ต่างๆ สามารถเพิ่มปุ่ม Follow ขึ้นไปบนหน้าเว็บ เพื่อให้ผู้เยี่ยมชมที่ต้องการติดตามสามารถคลิกปุ่มดังกล่าวได้ทันที ซึ่งปัจจุบันมีเว็บไซต์ขั้นนำมากกว่า 50 แห่งแล้วที่ใช้ปุ่ม Follow ตัวอย่างเช่น AOL, Yahoo, IMDB, WSJ, Sport Illustrated, TV Guide ส่วนคนดังก็เช่น Justin Bieber, Jennifer Lopez และ Lady Gaga (มีผู้ตามมากทีสุดในโลก, 10.6 ล้าน followers) สำหรับคุณผู้อ่านที่เป็นเจ้าของเว็บไซต์ที่สนใจจะติดปุ่ม Follow สามารถเข้าสร้างโค้ดเพื่อนำไปแปะบนเว็บไซต์ของคุณได้ที่ Twitter's Follow Button
Twitter เพิ่มบริการใหม่สำหรับเจ้าของเว็บไซต์ที่เป็นคนดัง และธุรกิจต่างๆ สามารถเพิ่มจำนวนผู้ติดตาม (followers) ได้เร็วขึ้น โดยวันนี้ เว็บไซต์ต่างๆ สามารถเพิ่มปุ่ม Follow ขึ้นไปบนหน้าเว็บ เพื่อให้ผู้เยี่ยมชมที่ต้องการติดตามสามารถคลิกปุ่มดังกล่าวได้ทันที ซึ่งปัจจุบันมีเว็บไซต์ขั้นนำมากกว่า 50 แห่งแล้วที่ใช้ปุ่ม Follow ตัวอย่างเช่น AOL, Yahoo, IMDB, WSJ, Sport Illustrated, TV Guide ส่วนคนดังก็เช่น Justin Bieber, Jennifer Lopez และ Lady Gaga (มีผู้ตามมากทีสุดในโลก, 10.6 ล้าน followers) สำหรับคุณผู้อ่านที่เป็นเจ้าของเว็บไซต์ที่สนใจจะติดปุ่ม Follow สามารถเข้าสร้างโค้ดเพื่อนำไปแปะบนเว็บไซต์ของคุณได้ที่ Twitter's Follow Button
ป้ายกำกับ:ตลก, น่าสนใจ, เก๋
แวดวงไอที
สร้างการ์ตูน Stop Motion แบบมืออาชีพด้วย iPhone/iPad/iPod
สร้างการ์ตูน Stop Motion แบบมืออาชีพด้วย iPhone/iPad/iPod: " การทำการ์ตูน Stop Motion นั้น ก็คือการที่เรานำวัตถุชึ้นหนึ่งหรือหลายๆชิ้น มาวางไว้ในเฟรมที่เราต้องการ(หรือจะเลื่อนกล้องไปด้วยก็ไม่ว่ากัน) จากนั้นก็ทำการเก็บภาพไปทีละครั้ง ซึ่งในแต่ละครั้งก็ทำการเคลื่อนไหววัตถุชิ้นนั้นไปด้วย เมื่อนำภาพที่ได้ออกมาต่อๆกันแล้วก็จะเกิดภาพ animation ขึ้นมานั่นเอง ซึ่งปกติ การสร้างภาพแบบ Stop Motion ก็คงต้องอาศัยอุปกรณ์มืออาชีพต่างๆมากมาย แต่วันนี้ ขอแค่คุณมี iPhone และ application ที่ชื่อว่า StopMotion Recorder ก็เพียงพอแล้ว"
StopMotion Recorder คือ application บน iPhone ที่จะช่วยให้คุณทำภาพเคลื่อนไหวแบบ Stop Motion ได้ง่ายๆ หลักการก็คือ ตัว app นั้น จะคอยเก็บภาพแต่ละ frame ตามเวลาที่ผู้ใช้ตั้งไว้ (Time Interval) และเมื่อเก็บภาพไปเฟรมหนึ่งแล้ว จะสร้าง Onion Skin (คือการซ้อนภาพเดิมกับภาพใหม่โดยที่คงภาพเดิมไว้แต่ปรับภาพให้โปร่งใสขึ้น คล้ายกับการวาดภาพ animation ด้วยมือ ที่มีการซ้อนภาพด้วยกระดาษลอกลายนั่นเอง) เพื่้อให้ผู้ใช้นำมาตัดสินใจกำหนดจุดให้วัตถุย้ายไปยังจุดต่อไปได้ แต่ถ้าหากกลัวว่าจะขยับภาพไม่ทันตามเวลาที่ตั้งไว้ หรือต้องการใช้เวลาปรับวัตถุนานๆ สามารถปรับเป็นโหมด Manual ก็ได้ ซึ่งสามารถเลือกเปิด Clap Shot โดยการถ่ายภาพแต่ละเฟรมจะใช้การตบมือหนึ่งครั้งนั่นเอง ว้าว!!!
นอกจากการทำ animation แบบธรรมดาแล้ว ยังใส่ลูกเล่นของภาพได้ โดยมีให้เลือกถึง 8 สไตล์ และภาพที่ได้จะออกมาในรูปแบบของวิดีโอ ให้เราสามารถนำไปใช้งานต่อได้ทันที ส่วน application ตัวนี้ สนนราคา (ณ ปัจจุบัน) เบาๆแค่ $0.99 เท่านั้น!!! (โหลดได้ที่นี่) เรียกว่าคุณภาพคุ้มราคาจริงๆครับ
StopMotion Recorder คือ application บน iPhone ที่จะช่วยให้คุณทำภาพเคลื่อนไหวแบบ Stop Motion ได้ง่ายๆ หลักการก็คือ ตัว app นั้น จะคอยเก็บภาพแต่ละ frame ตามเวลาที่ผู้ใช้ตั้งไว้ (Time Interval) และเมื่อเก็บภาพไปเฟรมหนึ่งแล้ว จะสร้าง Onion Skin (คือการซ้อนภาพเดิมกับภาพใหม่โดยที่คงภาพเดิมไว้แต่ปรับภาพให้โปร่งใสขึ้น คล้ายกับการวาดภาพ animation ด้วยมือ ที่มีการซ้อนภาพด้วยกระดาษลอกลายนั่นเอง) เพื่้อให้ผู้ใช้นำมาตัดสินใจกำหนดจุดให้วัตถุย้ายไปยังจุดต่อไปได้ แต่ถ้าหากกลัวว่าจะขยับภาพไม่ทันตามเวลาที่ตั้งไว้ หรือต้องการใช้เวลาปรับวัตถุนานๆ สามารถปรับเป็นโหมด Manual ก็ได้ ซึ่งสามารถเลือกเปิด Clap Shot โดยการถ่ายภาพแต่ละเฟรมจะใช้การตบมือหนึ่งครั้งนั่นเอง ว้าว!!!
นอกจากการทำ animation แบบธรรมดาแล้ว ยังใส่ลูกเล่นของภาพได้ โดยมีให้เลือกถึง 8 สไตล์ และภาพที่ได้จะออกมาในรูปแบบของวิดีโอ ให้เราสามารถนำไปใช้งานต่อได้ทันที ส่วน application ตัวนี้ สนนราคา (ณ ปัจจุบัน) เบาๆแค่ $0.99 เท่านั้น!!! (โหลดได้ที่นี่) เรียกว่าคุณภาพคุ้มราคาจริงๆครับ
ป้ายกำกับ:ตลก, น่าสนใจ, เก๋
แวดวงไอที
ขายภาพออนไลน์
ขายภาพออนไลน์: "ภาพถ่ายหลายร้อยช็อตที่โพสต์ไว้ในเฟซบุ๊กหรือเก็บดองไว้ในเครื่องคอมพิวเตอร์ ลองเลือกภาพที่คุณและคนใกล้ตัวบอกว่าสวย เอามาปรับแต่งเล็กน้อยด้วยโปรแกรมแต่งภาพ จากนั้นคลิกไปที่ www.stockphotothailand.com (สต็อกโฟโต้ไทยแลนด์) เว็บไซต์ที่จะทำให้คุณมีรายได้จากการขายภาพถ่ายออนไลน์ ทั้งยังเป็นแหล่งความรู้เกี่ยวกับการถ่ายภาพและซื้อขายภาพถ่าย"
เว็บเพจหน้าแรกได้รวบรวมเว็บลิงก์บริการซื้อขายภาพออนไลน์ ที่เปิดรับภาพถ่ายจากบุคคลทั่วไปเข้ามาจัดแสดงในสต็อก เพื่อรอให้ผู้สนใจเลือกซื้อได้ตามใจชอบ ในเว็บยังนำเสนอบทสัมภาษณ์ "ยูริ อาร์เคอร์ส" ผู้ที่มียอดขายภาพผ่านไมโครสต็อกมากที่สุดในโลก ยอดดาวน์โหลดมากกว่า 2,000 ภาพต่อวัน ถัดมาเว็บบอร์ดให้สมาชิกแลกเปลี่ยนความรู้เกี่ยวกับการถ่ายภาพ เทคนิคและแนวคิดต่างๆ รวมทั้งแจ้งข่าวสารการอบรม สัมมนา เวิร์กช็อปและกิจกรรมต่างๆ
เว็บเพจหน้าแรกได้รวบรวมเว็บลิงก์บริการซื้อขายภาพออนไลน์ ที่เปิดรับภาพถ่ายจากบุคคลทั่วไปเข้ามาจัดแสดงในสต็อก เพื่อรอให้ผู้สนใจเลือกซื้อได้ตามใจชอบ ในเว็บยังนำเสนอบทสัมภาษณ์ "ยูริ อาร์เคอร์ส" ผู้ที่มียอดขายภาพผ่านไมโครสต็อกมากที่สุดในโลก ยอดดาวน์โหลดมากกว่า 2,000 ภาพต่อวัน ถัดมาเว็บบอร์ดให้สมาชิกแลกเปลี่ยนความรู้เกี่ยวกับการถ่ายภาพ เทคนิคและแนวคิดต่างๆ รวมทั้งแจ้งข่าวสารการอบรม สัมมนา เวิร์กช็อปและกิจกรรมต่างๆ
ป้ายกำกับ:ตลก, น่าสนใจ, เก๋
แวดวงไอที
10 โปรแกรมเสริมตัวการที่ทำให้ Firefox เริ่มต้นทำงานช้ามากๆ :(
10 โปรแกรมเสริมตัวการที่ทำให้ Firefox เริ่มต้นทำงานช้ามากๆ :(: " หลังจากที่ Mozilla อัพเดต Firefox 4 ให้มีประสิทธิภาพการทำงานที่เร็วขึ้น โดยเฉพาะกลไกของ JavaScript ซึ่งช่วยให้การแสดงผลเว็บไซต์เร็วขึ้นอย่างเห็นได้ชัด แต่มันยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่เป็นตัวการทำให้ Firefox ของคุณเริ่มต้นทำงานได้ช้าจนน่าประหลาดใจ โดยล่าสุด Firefox ได้ให้ข้อมูลกับผู้ใช้ถึงสาเหตุดังกล่าวแล้วว่า มันเกิดขึ้นจากโปรแกรมเสริมการทำงาน หรือ add-ons ที่ผู้ใช้ติดตั้งเขั้าไป"
หากคุณผู้อ่านรู้สึกว่า Firefox ทีใช้อยู่มีการเริ่มต้น (start-up) การทำงานช้าลง ประมาณเปิดตั้งนานกว่าจะขึ้น บางทีคุณอาจจะต้องยกเลิก (disable) การทำงานของ add-ons บางตัวซะแล้ว โดยข้อมูลล่าสุดจาก Mozilla ได้ระบุว่า add-on ที่ผู้ใช้ติดตั้งเข้าไปจะเป็นสาเหตุที่ทำให้การเริ่มต้นการทำงานของโปรแกรม Firefox ต้องใช้เวลาเพิ่มขึ้นอย่างน้อย ๅ10% แต่นี่คือค่าเฉลี่ย เพราะความจริงแล้ว add-on บางตัวที่ได้รับการโค้ดโปรแกรมได้ไม่ดีนักอาจส่งผลกระทบต่อเวลาที่ใช้ในการโปรแกรมได้อย่างเลวร้ายมากทีเดียว
เพื่อเป็นการกระตุ้นให้นักพัฒนาใส่ใจที่จะปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานของ add-on ทาง Mozilla ได้เริ่มต้นทดสอบ add-on ยอดฮิตบน Firefox ประมาณ 100 ตัว เพื่ออัพเตตให้ผู้ใช้ทราบถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นกับเวลาเริ้มต้นในการเปิดโปรแกรมขึ้นใช้งาน โดยล่าสุดทางเว็บไซต์ได้มีการรายงานถึง 10 โปรแกรมเสริมการทำงานที่ส่งผลกระทบร้ายแรงต่อเวลาที่ใช้ในการเริ่มต้นการทำงานของ Firefox ให้ได้ทราบโดยทั่วกัน ดังนี้
หากคุณผู้อ่านรู้สึกว่า Firefox ทีใช้อยู่มีการเริ่มต้น (start-up) การทำงานช้าลง ประมาณเปิดตั้งนานกว่าจะขึ้น บางทีคุณอาจจะต้องยกเลิก (disable) การทำงานของ add-ons บางตัวซะแล้ว โดยข้อมูลล่าสุดจาก Mozilla ได้ระบุว่า add-on ที่ผู้ใช้ติดตั้งเข้าไปจะเป็นสาเหตุที่ทำให้การเริ่มต้นการทำงานของโปรแกรม Firefox ต้องใช้เวลาเพิ่มขึ้นอย่างน้อย ๅ10% แต่นี่คือค่าเฉลี่ย เพราะความจริงแล้ว add-on บางตัวที่ได้รับการโค้ดโปรแกรมได้ไม่ดีนักอาจส่งผลกระทบต่อเวลาที่ใช้ในการโปรแกรมได้อย่างเลวร้ายมากทีเดียว
เพื่อเป็นการกระตุ้นให้นักพัฒนาใส่ใจที่จะปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานของ add-on ทาง Mozilla ได้เริ่มต้นทดสอบ add-on ยอดฮิตบน Firefox ประมาณ 100 ตัว เพื่ออัพเตตให้ผู้ใช้ทราบถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นกับเวลาเริ้มต้นในการเปิดโปรแกรมขึ้นใช้งาน โดยล่าสุดทางเว็บไซต์ได้มีการรายงานถึง 10 โปรแกรมเสริมการทำงานที่ส่งผลกระทบร้ายแรงต่อเวลาที่ใช้ในการเริ่มต้นการทำงานของ Firefox ให้ได้ทราบโดยทั่วกัน ดังนี้
- FoxLingo แปลภาษา/ดิกชันนารี
- Firebug เครื่องมือสำหรับนักพัฒนาเว็บ (ตรวจสอบ แก้ไข สอดส่อง HTML, CSS & JavaScript)
- AniWeather รายงานพยากรณ์อากาศด้วยภาพเคลื่อนไหว
- FlashGot ดาวน์โหลดแมเนเจอร์
- FoxClocks นาฬิกาแสดงเวลาด้วยรูปแบบที่สวยงาม
- FoxyTunes เลือกเล่นเพลงบนโปรแกรมมีเดียเพลเยอร์ที่ชื่นชอบขณะท่องเน็ต
- Video DownloadHelper โหลดคลิปวิดีโอจากเว็บไซต์ยอดฮิตอย่าง YouTube ฯลฯ
- FastestFox ปรับแต่งตัวแปรบนเน็ตเวิร์ก เร่งเครื่องให้ไฟร์ฟอกซ์
- Xmarks Sync ซิงค์บุ๊คมาร์ค พาสเวิร์ด แบ็คอัพแท็บที่เปิดบนบราวเซอร์ หรือพีซีเครื่องอื่นๆ
- SimilarWeb ค้นหาเว็บไซต์ที่ใกล้เคียงที่สุด
ใน add-on ทั้งหมดนี้จะมีอยู่ 2 ตัวที่กินเวลาถึง 76% ของการเปิดโปรแกรม Firefox ขึ้นใช้งาน นั่นคือ FoxLingo และ Firebug สำหรับเพื่อนคนไหนที่ใช้ add-on สองตัวนี้อยู่ก็ไม่ต้องสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น หากใช้เวลาในการเปิดโปรแกรม Firefox ช้าเหลือเกิน รู้อย่างนี้แล้ว ถ้าเพื่อนๆ ไม่จำเป็นต้องใช้ add-on ก็ disable มันจะเป็นการดีกว่านะครับ เผื่อว่า อะไรๆ จะทำให้มันเร็วขึ้นได้บ้าง สนใจรายละเอียดเพิ่มเติมติดตามได้ที่ https://addons.mozilla.org/en-US/firefox/performance/
ป้ายกำกับ:ตลก, น่าสนใจ, เก๋
แวดวงไอที
อยากให้แอพฯ บน "แอนดรอยด์" ตัวไหน? หมุนหน้าจอได้บ้าง จัดไป!!!
อยากให้แอพฯ บน "แอนดรอยด์" ตัวไหน? หมุนหน้าจอได้บ้าง จัดไป!!!: " ผู้ใช้สมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ (android) หลายคนบ่นอให้ฟังว่า คุณสมบัติการทำงานที่เรียกว่า Auto-Rotate ที่คอยหมุนหน้าจอให้สอดคล้องกับการถือใช้งาน (แนวนอน หรือแนวตั้ง) ได้โดยอัตโนมัติ ซึ่งในบางแอพฯ คุณอาจจะไม่ได้ต้องการให้มันหมุนหน้าจอให้ แทนที่จะสะดวกกลับกลายเป็นสร้างความรำคาญให้กับผู้ใช้"
หลายคนเลือกใช้วิธีแก้ปัญหาดังกล่าวด้วยการปิดคุณสมบัติการทำงานของ Auto-rotate ไปเลย สำหรับคุณผู้อ่านท่านใดที่ใช้สมาร์ทโฟน Android แล้วพบปัญหานี้อยู่บ่อย เรามีทางออกที่น่าสนใจกว่าวิธีข้างต้น นั่นก็คือ การติดตั้งแอพฯ ฟรี!!! อย่าง Smart Rotator โดยความสามารถของมันก็คือ ผู้ใช้สามารถเลือกกำหนดได้ว่า จะให้แอพพลิเคชันตัวไหนบ้างหมุนจอโดยอัตโนมัติ และตัวไหนให้มันอยู่ใน portrait mode ตลอดเวลา ฟังดูเป็นแอพพลิเคชันทีมีการทำงานเรียบง่ายมาก แต่มันช่วยแก้ปัญหาที่สร้างความรำคาญให้คุณได้เป็นอย่างดี
ในส่วนของการใช้งาน หลังจากผู้ใช้ติดตั้งแอพฯ เข้าไปแล้ว เลือกแอพฯทีต้องการให้ Rotate ได้ จากนั้นปล่อยให้มันทำงานอยู่ในแบคกราวด์โหมด เพื่อคอยตรวจสอบว่า แอพฯ ตัวที่คุณเปิดขึ้นทำงานต้องการฟีเจอร์ auto-rotate หรือไม่? Smart Rotator เป็นแอพฯแจกฟรี สามารถทำงานได้บนระบบปฏิบัติการ Android 1.6 ขึ้นไป
หลายคนเลือกใช้วิธีแก้ปัญหาดังกล่าวด้วยการปิดคุณสมบัติการทำงานของ Auto-rotate ไปเลย สำหรับคุณผู้อ่านท่านใดที่ใช้สมาร์ทโฟน Android แล้วพบปัญหานี้อยู่บ่อย เรามีทางออกที่น่าสนใจกว่าวิธีข้างต้น นั่นก็คือ การติดตั้งแอพฯ ฟรี!!! อย่าง Smart Rotator โดยความสามารถของมันก็คือ ผู้ใช้สามารถเลือกกำหนดได้ว่า จะให้แอพพลิเคชันตัวไหนบ้างหมุนจอโดยอัตโนมัติ และตัวไหนให้มันอยู่ใน portrait mode ตลอดเวลา ฟังดูเป็นแอพพลิเคชันทีมีการทำงานเรียบง่ายมาก แต่มันช่วยแก้ปัญหาที่สร้างความรำคาญให้คุณได้เป็นอย่างดี
ในส่วนของการใช้งาน หลังจากผู้ใช้ติดตั้งแอพฯ เข้าไปแล้ว เลือกแอพฯทีต้องการให้ Rotate ได้ จากนั้นปล่อยให้มันทำงานอยู่ในแบคกราวด์โหมด เพื่อคอยตรวจสอบว่า แอพฯ ตัวที่คุณเปิดขึ้นทำงานต้องการฟีเจอร์ auto-rotate หรือไม่? Smart Rotator เป็นแอพฯแจกฟรี สามารถทำงานได้บนระบบปฏิบัติการ Android 1.6 ขึ้นไป
ป้ายกำกับ:ตลก, น่าสนใจ, เก๋
แวดวงไอที
ยูเอสบีไดรฟ์ Iron Man 2 อยากได้สุดๆ
ยูเอสบีไดรฟ์ Iron Man 2 อยากได้สุดๆ: " ช่วงที่ภาพยนตร์เรื่อง Iron Man 2 ลงโรง ก็มีแก็ดเจ็ต (Gadget) ที่เกาะกระแสหนังเรื่องนี้ตามออกมามากมาย หนึ่งในนั้นก็คือ แฟลชไดรฟ์ หรือยูเอสบีไดรฟ์จากบริษัทผู้ผลิตในสหรัฐฯ โดยออกแบบเป็นเคสของยูเอสบีไดรฟ์เป็น Iron Man 2 SD ที่มาทั้งตัว แต่สำหรับยูเอสบีไดรฟ์ Iron Man 2 ในญี่ปุ่นจะได้รับการออกแบบให้มีแค่ส่วนของศรีษะเท่านั้น ซึ่งดูสวยงามลงตัว น่าใช้กว่ากันเยอะเลย :D"
Iron Man USB Flash Drive ที่นำมาฝากคุณผู้่อานในวันนี้ มีให้เลือก 2 เวอร์ชันด้วยกันคือ แบบที่ศรีษะเป็นสีเงินล้วนๆ กับสีแดง/ทอง ซึ่งดูเหมือนมากๆ จุดเด่นของมันนอกจากจะมีดีไซน์ที่ลงตัวสวยงามแล้ว ที่ดวงตาของ Iron Man บนไดรฟ์ยังเป็นตำแหน่งที่ต่อกับวงจร LED ที่จะสว่างขึ้นเมื่อคุณเสียบไดรฟ์เข้ากับพอร์ต USB บนคอมพิวเตอร์อีกด้วย...ว้าว!!!
และเช่นเคย ยูเอสบีไดรฟ์ประภทมีดีไซน์มักจะไม่ค่อยมีรุ่นที่ความจุสูงมากนัก สำหรับ Iron Man USB Flash Dirve ทั้งสองเวอร์ชันจะมีความจุแค่เพียง 4GB เท่านั้น ก็คงต้องยอมแลกกันหน่อยสำหรับความเท่กับขนาดของความจุ สนนราคาของมันอยู่ที่ 19.99 เหรียญฯ หรือประมาณ 600 บาทครับ
Iron Man USB Flash Drive ที่นำมาฝากคุณผู้่อานในวันนี้ มีให้เลือก 2 เวอร์ชันด้วยกันคือ แบบที่ศรีษะเป็นสีเงินล้วนๆ กับสีแดง/ทอง ซึ่งดูเหมือนมากๆ จุดเด่นของมันนอกจากจะมีดีไซน์ที่ลงตัวสวยงามแล้ว ที่ดวงตาของ Iron Man บนไดรฟ์ยังเป็นตำแหน่งที่ต่อกับวงจร LED ที่จะสว่างขึ้นเมื่อคุณเสียบไดรฟ์เข้ากับพอร์ต USB บนคอมพิวเตอร์อีกด้วย...ว้าว!!!
และเช่นเคย ยูเอสบีไดรฟ์ประภทมีดีไซน์มักจะไม่ค่อยมีรุ่นที่ความจุสูงมากนัก สำหรับ Iron Man USB Flash Dirve ทั้งสองเวอร์ชันจะมีความจุแค่เพียง 4GB เท่านั้น ก็คงต้องยอมแลกกันหน่อยสำหรับความเท่กับขนาดของความจุ สนนราคาของมันอยู่ที่ 19.99 เหรียญฯ หรือประมาณ 600 บาทครับ
ป้ายกำกับ:ตลก, น่าสนใจ, เก๋
แวดวงไอที
DoCoMo โชว์มือถือแปล"เสียงพูด"ทันที
DoCoMo โชว์มือถือแปล"เสียงพูด"ทันที: " การแข่งขันในตลาดอุปกรณ์แปลภาษายังคงดุเดือดตลอดเวลา ซึ่งกูเกิ้ล (Google) ได้เคยสาธิตการทำงานของ Google Traslate ด้วยการแปลเสียงสนทนา (speech-to-speech) คนละภาษาบนมือถือ Android ให้ได้เห็นกันไปบ้างแล้ว แต่นั่นก็เป็นเพียงแค่การสาธิตให้กับเฉพาะกลุ่มนักพัฒนาเท่านั้น ล่าสุด NTT DoCoMo โอเปอเรเตอร์ยักษ์ใหญ่ในญี่ปุ่น ร่วมมือกับ Google และ DARPA โชว์โซลูชั่นการแปลแบบเรียลไทม์ ตลอดจนสมาร์ทโฟนทีสามารถสนทนากันคนละภาษา แล้วให้มันแปลในระหว่างพูดคุยกันได้ทันที...ว้าว!!!"
ป้ายกำกับ:ตลก, น่าสนใจ, เก๋
แวดวงไอที
iPhone 4S โผล่ปลายก.ค."ไม่ใช้ซิม"?
iPhone 4S โผล่ปลายก.ค."ไม่ใช้ซิม"?: " ข่าวลือเกี่ยวกับ iPhone 4S ยังคงมีออกให้ได้ยินอย่างต่อเนื่องล่าสุด เว็บไซต์ Mactakara ได้ออกมาเปิดเผยบันทึกข้อความเกี่ยวกับ iPhone 4S และ iPhone 5 โดยอ้างข้อมูลดังกล่ามาจากแหล่งข่าววงในที่ไม่สามารถเปิดเผยตัวตนได้ โดยแหล่งข่าวอ้างว่า iPhone 4S จะเปิดตัวในช่วงปลายเดือนกรกฎาคม หรืออย่างช้าต้นเดือนสิงหาคม ศกนี้ ส่วน iPhone 5 จะเปิดตัวในปี 2012"
ป้ายกำกับ:ตลก, น่าสนใจ, เก๋
แวดวงไอที
Twitter เล็งให้บริการ"แชร์ภาพดิจิตอล"
Twitter เล็งให้บริการ"แชร์ภาพดิจิตอล": " ตามด้วยรายงานข่าว'ลือ'อีกชิ้นหนึ่งที่มีความเป็นไปได้ค่อนข้างสูง หลังจากที่ทวิตเตอร์ (Twitter) บริการไมโครบล็อกกิ้งได้เข้าซื้อ TweetDeck ไคลเอ็นต์ยอดฮิตสำหรับผู้ใช้บริการ Twitter ด้วยมูลค่า 40 ล้านเหรียญฯ ล่าสุดมีรายงานออกมาเมื่อเช้านี้ว่า ทางบริษัทกำลังจะเปิดให้บริการแชร์ภาพ (photo-sharing service) ของตนเอง เพื่อต่อกรกับ Twitpic และ Yfrog"
ป้ายกำกับ:ตลก, น่าสนใจ, เก๋
แวดวงไอที
LG V300 "ออลอินวัน"พีซี 3D มัลติทัช
LG V300 "ออลอินวัน"พีซี 3D มัลติทัช: " ในงาน Computex 2011 ที่กำลังจัดให้มีขึ้นในไต้หวัน ระหว่างวันที่ 30 พ.ค. - 4 มิย. ทางบริษัท LG ก็ถือเอางานนี้ในการแนะนำผลิตภัณฑ์ที่กำลังไดรับความนิยมในหมู่ผู้ใช้พีซีตามบ้าน นั่นก็คือ All-In-One PC คอมพิวเตอร์ที่ตอบโจทย์ทุกการใช้งาน และความบันเทิงต่างๆ ล่าสุดในงานนี้ LG ได้นำ AIO PC ที่มีคุณสมบัติการทำงานเหนือกว่าร่นอื่นๆ ในท้องตลาดมาโชว์ด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะความสามารถในเรื่องของการแสดงผล 3D"
ป้ายกำกับ:ตลก, น่าสนใจ, เก๋
แวดวงไอที
Intel Ultrabook โน้ตบุ๊คแอร์+แท็บเล็ต
Intel Ultrabook โน้ตบุ๊คแอร์+แท็บเล็ต: " รายงานข่าวของ arip ยังคงเป็นเรื่องของการแนะนำผลิตภัณฑ์ และเทคโนโลยีใหม่ที่มีการเปิดตัวในงาน Computex 2011ซึ่งจัดขึ้น ณ.กรุงไทเป ประเทศไต้หวัน โดยล่าสุด Intel ได้เปิดตัวโน้ตบุ๊คสายพันธุ์ใหม่เรียกว่า 'อันตร้าบุ๊ค' (Ultrabook) ที่เป็นการรวมคุณสมบัติที่ดีที่สุดของ MacBook Air กับ iPad เข้าด้วยกัน"
ป้ายกำกับ:ตลก, น่าสนใจ, เก๋
แวดวงไอที
วันศุกร์ที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2554
ThaiKeys for E72
ThaiKeys for E72
สวัสดีปีใหม่ไทยนะครับ ก็หลังสงกรานต์มาแนะนำโปรแกรมฟรีดีๆ จาก OVI Store กันอีกหนึ่งโปรแกรมครับ สำหรับโทรศัพท์มือถือ NOKIA E72 นะครับ ซึ่งรุ่นนี้มีปัญหากับการพิมพ์ภาษาไทยนิดหน่อย (คาดว่าถ้า NOKIA ไม่ลืม อาจจะมี firmware รุ่นใหม่ๆ ออกมาแก้ไขตรงนี้นะ) โดยโปรแกรมที่จะมาแนะนำนี้มีชื่อว่า ThaiKeys for E72 โดย Sitipol ครับ
ผมเองก็ยังไม่ได้ลองใช้นะครับ (เพราะเครื่องเป็นของน้อง และตอนนี้น้องไปเที่ยวต่างจังหวัดนะครับ) แต่ผมได้อ่านคอมเม้นต์ใน OVI Store ก็ถือว่าดีนะครับ ซึ่งใน OVI Store โปรแกรมนี้ได้ 4 ดาว (จาก 5 ดาว) หากผู้ใช้ E72 ท่านใดสนใจลองแวะไปโหลดมาใช้ได้ฟรีๆ จาก OVI Store ได้เลยครับ
ลิ้งก์ ThaiKeys for E72
*** เป็น Apps ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายนะครับ
วันพฤหัสบดีที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2554
PAC-MAN
PAC-MAN Championship Edition
สุดยอดคลาสสิคเกมในตำนาน PAC-MAN กลับมาไล่งับผีในมือถือกันแล้ว เวอร์ชั่นนี้เล่นได้บนโทรศัพท์มือถือหน้าจอสัมผัสนะครับ เช่น Nokia 5800, Nokia 5233 และสามารถเล่นได้ทั้งในแนวตั้ง และแนวนอน ไม่มีปัญหาเลยนะครับ สนุกมาก
สามารถดาวน์โหลดได้ที่ OVI Store ในราคา 40 บาทครับ ตามลิ้งก์นี้เลย
http://store.ovi.com/content/59081?clickSource=publisher+channel
*** แบบรายเดือนคิดรวมตอนสิ้นเดือน แบบเติมเงินก็หักเงินในมือถือเลยครับ
ป้ายกำกับ:ตลก, น่าสนใจ, เก๋
เกม,
ดาวน์โหลด,
Download,
Nokia,
Nokia 5230,
Nokia 5233,
Nokia 5235,
Nokia 5530,
Nokia 5800,
OVI,
OVI Store,
PACMAN
วันจันทร์ที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2554
บทความต่อไป
สวัสดีหน้าน้ำหลากนะครับคุณผู้อ่าน
ตอนนี้มองไปทางไหนก็ดูแต่จะมีเรื่องชวนหดหู่เศร้าหมอง ตั้งใจจะเขียนบทความเรื่องใหม่ลง Blog ก็ไม่ได้เริ่มซะที มีแต่คิดโครงร่างไว้ในหัว เอาเป็นเรื่องนี้ดีกว่า การเปลี่ยนรูปแบบเมนูของโทรศัพท์มือถือ NOKIA รุ่น 5800, 5230, 5233 และรุ่นอื่นๆ ที่เป็น S60V5 ด้วยงบประมาณ 20 บาท (กรณีซื้อโปรแกรมแท้จาก OVI Store แต่ถ้าใครไปหาโหลดเองได้ก็ไม่ต้องจ่ายครับ) ซึ่งผู้เขียนเองได้ลองผิดลองถูกมาหลายโปรแกรม บางโปรแกรมบอกตรงๆ ว่า ห่วยมาก!!! ลงแล้วสไลด์ไปมาก็ช้า เปิดโปรแกรมก็ช้า แต่เมนูสวย เน้นเอาไว้โชว์อย่างเดียว (สวยแต่รูปจูบไม่หอม) แต่สำหรับที่ผู้เขียนจะมาแนะนำนี้ ผู้เขียนได้ทดลองใช้มาสักระยะหนึ่งแล้ว ไม่พบปัญหาว่ามีอาการหน่วง กิน RAM นิดเดียว และนอกจากเป็นโปรแกรมที่แปลงรูปแบบเมนูแล้ว ยังเป็นโปรแกรมล็อคเครื่องอีกด้วย เรียกว่า 2in1 ในราคา 20 บาท ถูกมาก มีรูปตัวอย่างมาให้ดูยั่วกันไปก่อน
ด้านซ้ายคือหน้าจอตอนล็อคเครื่อง ด้านขวาคือหน้าเมนูแบบที่เราจะเปลี่ยน
ก็เหมือนที่อธิบายไปด้านบนนะครับ แต่รูปนี้เปลี่ยน Theme เป็นแบบ iPhone ครับ
รอติดตามอ่านกันได้เลยนะครับ...
ป้ายกำกับ:ตลก, น่าสนใจ, เก๋
Download,
Nokia,
Nokia 5230,
Nokia 5233,
Nokia 5235,
Nokia 5530,
Nokia 5800,
OVI,
OVI Store
วันเสาร์ที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2554
Pirates of the Caribbean 4
การผจญภัยสุดขอบฟ้าภาคใหม่กำลังมา Pirates of the Caribbean : On Stranger Tides
จากในตอนจบของภาคที่แล้ว กัปตัน Jack Sparrow ออกผจญภัยเพื่อตามหาน้ำพุแห่งความเยาว์วัย (เพื่อความเป็นอมตะ) และได้ผจญภัยกับนางเงือก และพบคู่ปรับใหม่โจรสลัดในตำนานที่มีตัวตนจริง โจรสลัดเคราดำ (Blackbeard) หรือชื่อจริง Edward Teach เป็นโจรสลัดสัญญชาติอังกฤษ ที่มีชื่อเสียงด้านความโหด พกปืน 6 กระบอก มีเมีย 14 คน ความโหดของเคราดำกลายไปเป็นต้นแบบให้โจรสลัดอีกหลายคน และต้นแบบของตัวการ์ตูนมากมาย เช่น กัปตัน Hook หรือตัวละคร หนวดดำ และ หนวดขาว ในการ์ตูนเรื่อง วันพีช
หนวดขาว
เคราดำพบจุดจบ ด้วยการหักหลังของลูกน้องคนสนิท ที่ไปบอกที่ซ่อนของเคราดำให้ทางการรู้ และเกิดการต่อสู้ครั้งใหญ่ขึ้น หลังเหตุการณ์สงบ เคราดำตาย เขาโดนยิง 25 นัด มีแผลจากการถูกฟัน และแทงกว่า 20 แผล เคราดำถูกตัดหัวแล้วนำไปแขวนประจานไว้ที่หน้าเรือ ร่างถูกโยนทิ้งทะเล...
และนี่คือ ธงประจำเรือโจรสลัดของเคราดำ
เคราดำกลายเป็นตำนาน จน BBC นำไปสร้างเป็นสารคดี Blackbeard จอมโจรเคราดำ : เปิดตำนานโจรสลัดตัวจริงแห่ง...แคริบเบี้ยน! และมีฉายทางเคเบิ้ลด้วยนะครับ ช่องไหนไม่แน่ใจ ดูนานลืมไปแล้ว
และนี่คือโฉมหน้าของ เคราดำ ในเรื่อง Pirates of the Caribbean : On Stranger Tides
คอยดูกันว่า เคราดำในหนัง กับ เคราดำในตำนาน ใครจะโหดกว่ากัน
ป้ายกำกับ:ตลก, น่าสนใจ, เก๋
ตัวอย่างภาพยนต์,
ภาพยนต์,
Pirates of the Caribbean,
YouTube
วันอาทิตย์ที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2554
Adobe Illustrator CS2
Adobe Illustrator CS2 ฉบับเรียนลัดเป็นเร็ว
เมื่อไม่นานมานี้ ผู้เขียนไปเดินห้างฯ ไม่ได้มีเจตนาจะไปซื้อหนังสือ แต่ระหว่างที่กำลังจะกลับนั้นเอง ผู้เขียนบังเอิญเดินผ่านร้านขายหนังสือเก่า หนังสือมือสอง ก็เลยแวะหยิบๆ ดู
จนผู้เขียนมาพบกับหนังสือ Adobe Illustrator CS2 ฉบับเรียนลัดเป็นเร็ว ของ Success Media โดยคุณ ชลมารค พันธุ์สมบัติ เนื้อหาเขียนได้ดีมากครับ แถมมี CD มาให้ด้วย
ผู้เขียน : เล่มนี้เท่าไหร่ครับ?
คนขาย : 20 บาท ค่ะ
ผู้เขียน : 20 บาท !!!
คนขาย : ค่ะ
ผู้เขียนคิดในใจ ทำไมถูกจัง ปกติเคยไปซื้อหนังสือตามร้านหนังสือมือสองอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ถูกแบบนี้ ซื้อเลยแล้วกัน
ผู้เขียน : เอาเล่มนี้ละครับ
คนขาย : ค่ะ
คุณผู้อ่านหลายๆ คนอาจจะงงว่าทำไมถูกจัง ไม่ต้องงงนะครับ เนื่องจากหนังสือออกมานานพอสมควร และเป็นเวอร์ชั่น CS2 ซึ่งปัจจุบันเป็นเวอร์ชั่น CS5 แล้ว คนขายบอกว่าหากเก็บไว้นานก็คงจะขายไม่ได้แล้ว ต้องลดราคา เพราะลูกค้าบางคนก็ไปซื้อเล่มที่เป็นเวอร์ชั่นใหม่มากกว่านั่นเองครับ
แต่สำหรับผู้เขียน ผู้เขียนมองว่าไม่เป็นไร เวอร์ชั่นไหนก็ได้ เพราะผู้เขียนยังใช้เวอร์ชั่น CS1 บ้าง CS2 บ้าง และ CS3 ซึ่งโดยพื้นฐานแล้วก็จะเหมือนๆ กัน แต่ว่าโปรแกรมเวอร์ชั่นใหม่จะมีการเพิ่มฟังก์ชั่นใหม่ๆ เข้ามาเท่านั้นเอง
ท้ายนี้ผู้เขียนขอขอบคุณ คุณ ชลมารค พันธุ์สมบัติ สำหรับเนื้อหาดีๆ เพราะผู้เขียนเองไม่เก่ง Illustrator เลยครับ ก็หวังว่าจะได้เก่งขึ้นด้วยหนังสือของคุณ คุณ ชลมารค พันธุ์สมบัติ นี่ละครับ
ป้ายกำกับ:ตลก, น่าสนใจ, เก๋
Adobe Illustrator
วันจันทร์ที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2554
Free Ebook
วันนี้ผมอัพเดท Ebook ฉบับใหม่เพิ่มลงไปแล้วนะครับ สดๆ ร้อนๆ เมื่อสักครู่นี้เองครับ ตอนนี้จึงมี 3 ฉบับแล้วนะครับที่ผมลงไว้ ได้แก่
- คู่มือการใช้โปรแกรม PhotoMosaique 1.6 (ฉบับภาษาไทย)
- คู่มือการติดตั้ง Fonts จาก SIPA ในระบบปฏิบัติการ Windows XP (ฉบับภาษาไทย)
- คู่มือการตั้งค่าการป้องการแท๊กรูปภาพที่ไม่ต้องการใน facebook (ฉบับภาษาไทย)
คุณผู้อ่านที่สนใจสามารถเข้าไปดาวน์โหลดได้ในหน้า ฟรี Ebook ได้เลยนะครับ และหากจะแนะนำติชมผู้เขียนก็ยินดีรับฟังครับ จะได้นำไปปรับปรุงต่อไป
ป้ายกำกับ:ตลก, น่าสนใจ, เก๋
Free Ebook
วันเสาร์ที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554
the social network
the social network
***ก่อนอื่น ขอออกตัวไว้ก่อนเลยว่าผมไม่ใช่นักวิจารณ์หนังนะครับ แต่ก็เขียนแชร์ประสบการณ์ตามความเห็นของตัวผมเอง ดังนั้นอาจจะไม่ได้ตรงกับความเห็นของคนอื่นๆ ถ้าอ่านแล้วไม่ถูกใจข้ามไปได้เลยนะครับ
หนังเริ่มด้วยการที่ Mark Zuckerberg นั่งคุยกับ Erica Albright คุยไปคุยมาก็กลายเป็นว่าโดนสาวบอกเลิก Mark Zuckerberg อาจจะโมโหปนเจ็บใจ เลยกลับห้องมาเมา แล้วก็เขียน Blog รายงานสถานะการณ์สดที่ตนเลิกกับ Erica Albright พูดง่ายๆ ว่าเขียนด่าผู้หญิงนะ เช่นไปวิจารณ์เรื่องหน้าอกของเธอ (ตรงนี้เพื่อนสนิทเค้าชื่อ Eduardo Saverin ได้อ่าน และเป็นห่วง อ่านจบก็เลยออกเดินทางมาหา Mark Zuckerberg) หลังจาก Mark Zuckerberg เขียน Blog ระบายความรู้สึกแล้ว เพื่อนอีกคนก็เมาเข้ามาแล้วพูดให้ไอเดียกับ Mark Zuckerberg ซึ่งตรงนี้ก็เป็นจุดเริ่มต้นของการทำเว็บไซต์ Facematch และ Eduardo Saverin ก็มาถึง ซึ่ง Mark Zuckerberg ต้องการอัลกอริทึม (Algorithm) ของ Eduardo Saverin ในการประมวลผลเว็บไซต์ที่เค้าทำขึ้นมาใหม่ด้วย ผลคือเว็บไซต์ดังกระฉูดฉุดไม่อยู่ จนอินเตอร์เน็ตของมหาลัยล่ม Mark Zuckerberg ก็เลยดังในช่วงข้ามคืน (ดังเฉพาะในมหาลัยนะ) จนไปถูกใจพี่น้องคู่แฝด Cameron และ Tyler Winklevoss กับหุ้นส่วนอีกคนชื่อ Divya Narendra (คนนี้เล่นดีนะ กวนส้นดี ถ้าเล่นดีก็อาจจะเล่นเหมือนตัวจริง ไม่รู้ตัวจริงนิสัยอย่างนี้รึเปล่านะ) จากนั้นทั้ง 3 ก็เล่าแนวคิดของตัวเองให้ Mark Zuckerberg ฟัง และชวนให้มาร่วมงานด้วย Mark Zuckerberg ก็ตอบตกลง แต่ในใจไม่ได้ตกลงตามนั้น เค้านำแนวความคิดนั้นมาปรับเปลี่ยน และเพิ่มอะไรหลายๆ อย่างลงไป ซึ่งส่วนมากไอเดียก็มาจากคนรอบข้างเค้าทั้งนั้น แล้ว Mark Zuckerberg ก็ได้ชักชวนให้ Eduardo Saverin มาร่วมลงทุนด้วย โดยตกลงแบ่งกำไรกันที่ Mark Zuckerberg ขอ 70% และที่เหลือ 30% เป็นของ Eduardo Saverin ไม่นานนักเว็บไซต์ the facebook ก็เปิดให้บริการ ก็เลยเป็นจุดเริ่มต้นของปัญหาทั้งหมด Cameron และ Tyler Winklevoss กับ Divya Narendra ก็เลยฟ้อง Mark Zuckerberg แล้วเพื่อนที่ Mark Zuckerberg เอ่ยปากเองว่าสนิทที่สุดอย่าง Eduardo Saverin ก็ยังมาฟ้อง Mark Zuckerberg ด้วยอีกคน เพราะโดนตัดหางปล่อยวัด สัดส่วนหุ้นในบริษัทก็ลดลง ทั้งหมดทั้งปวงก็เพราะตัวละครอีกตัว Sean Parker (ไม่แน่ใจว่าเป็นญาติกับไอ้แมงมุม Peter Parker รึเปล่านะ) เป็นคนที่เห็นแก่ตัว และชอบฉวยโอกาสเป็นที่สุด เค้าคงเห็นโอกาสที่เพื่อนสนิทของ Mark Zuckerberg อย่าง Eduardo Saverin ไม่อยู่เข้ามาเสียบแทน และพยายามทำให้ Eduardo Saverin หมดความสำคัญ ซึ่งตัวของ Sean Parker ก็มีประวัติไม่ดีเท่าไหร่ ทั้งเรื่องธุรกิจ เรื่องส่วนตัว อย่างการมี Sex กับเด็กนักศึกษามหาลัย และยาเสพติด แต่สุดท้ายเค้าก็ยังได้ส่วนแบ่ง 7% (ตอนแรกได้ 6.47%) ซึ่งมากกว่าที่ Eduardo Saverin ได้รับในตอนหลัง (ตอนแรกได้ 34.4% ตอนหลังเหลือ 0.03%) และตอนจบ Mark Zuckerberg ก็ยังคงคิดถึง Erica Albright อยู่ เค้าค้นหาชื่อ Erica Albright ใน facebook และส่งคำขอเป็นเพื่อนไป จากนั้นก็นั่งกด F5 รีเฟรชอยู่อย่างนั้นจนจบ
หนังเริ่มด้วยการที่ Mark Zuckerberg นั่งคุยกับ Erica Albright คุยไปคุยมาก็กลายเป็นว่าโดนสาวบอกเลิก Mark Zuckerberg อาจจะโมโหปนเจ็บใจ เลยกลับห้องมาเมา แล้วก็เขียน Blog รายงานสถานะการณ์สดที่ตนเลิกกับ Erica Albright พูดง่ายๆ ว่าเขียนด่าผู้หญิงนะ เช่นไปวิจารณ์เรื่องหน้าอกของเธอ (ตรงนี้เพื่อนสนิทเค้าชื่อ Eduardo Saverin ได้อ่าน และเป็นห่วง อ่านจบก็เลยออกเดินทางมาหา Mark Zuckerberg) หลังจาก Mark Zuckerberg เขียน Blog ระบายความรู้สึกแล้ว เพื่อนอีกคนก็เมาเข้ามาแล้วพูดให้ไอเดียกับ Mark Zuckerberg ซึ่งตรงนี้ก็เป็นจุดเริ่มต้นของการทำเว็บไซต์ Facematch และ Eduardo Saverin ก็มาถึง ซึ่ง Mark Zuckerberg ต้องการอัลกอริทึม (Algorithm) ของ Eduardo Saverin ในการประมวลผลเว็บไซต์ที่เค้าทำขึ้นมาใหม่ด้วย ผลคือเว็บไซต์ดังกระฉูดฉุดไม่อยู่ จนอินเตอร์เน็ตของมหาลัยล่ม Mark Zuckerberg ก็เลยดังในช่วงข้ามคืน (ดังเฉพาะในมหาลัยนะ) จนไปถูกใจพี่น้องคู่แฝด Cameron และ Tyler Winklevoss กับหุ้นส่วนอีกคนชื่อ Divya Narendra (คนนี้เล่นดีนะ กวนส้นดี ถ้าเล่นดีก็อาจจะเล่นเหมือนตัวจริง ไม่รู้ตัวจริงนิสัยอย่างนี้รึเปล่านะ) จากนั้นทั้ง 3 ก็เล่าแนวคิดของตัวเองให้ Mark Zuckerberg ฟัง และชวนให้มาร่วมงานด้วย Mark Zuckerberg ก็ตอบตกลง แต่ในใจไม่ได้ตกลงตามนั้น เค้านำแนวความคิดนั้นมาปรับเปลี่ยน และเพิ่มอะไรหลายๆ อย่างลงไป ซึ่งส่วนมากไอเดียก็มาจากคนรอบข้างเค้าทั้งนั้น แล้ว Mark Zuckerberg ก็ได้ชักชวนให้ Eduardo Saverin มาร่วมลงทุนด้วย โดยตกลงแบ่งกำไรกันที่ Mark Zuckerberg ขอ 70% และที่เหลือ 30% เป็นของ Eduardo Saverin ไม่นานนักเว็บไซต์ the facebook ก็เปิดให้บริการ ก็เลยเป็นจุดเริ่มต้นของปัญหาทั้งหมด Cameron และ Tyler Winklevoss กับ Divya Narendra ก็เลยฟ้อง Mark Zuckerberg แล้วเพื่อนที่ Mark Zuckerberg เอ่ยปากเองว่าสนิทที่สุดอย่าง Eduardo Saverin ก็ยังมาฟ้อง Mark Zuckerberg ด้วยอีกคน เพราะโดนตัดหางปล่อยวัด สัดส่วนหุ้นในบริษัทก็ลดลง ทั้งหมดทั้งปวงก็เพราะตัวละครอีกตัว Sean Parker (ไม่แน่ใจว่าเป็นญาติกับไอ้แมงมุม Peter Parker รึเปล่านะ) เป็นคนที่เห็นแก่ตัว และชอบฉวยโอกาสเป็นที่สุด เค้าคงเห็นโอกาสที่เพื่อนสนิทของ Mark Zuckerberg อย่าง Eduardo Saverin ไม่อยู่เข้ามาเสียบแทน และพยายามทำให้ Eduardo Saverin หมดความสำคัญ ซึ่งตัวของ Sean Parker ก็มีประวัติไม่ดีเท่าไหร่ ทั้งเรื่องธุรกิจ เรื่องส่วนตัว อย่างการมี Sex กับเด็กนักศึกษามหาลัย และยาเสพติด แต่สุดท้ายเค้าก็ยังได้ส่วนแบ่ง 7% (ตอนแรกได้ 6.47%) ซึ่งมากกว่าที่ Eduardo Saverin ได้รับในตอนหลัง (ตอนแรกได้ 34.4% ตอนหลังเหลือ 0.03%) และตอนจบ Mark Zuckerberg ก็ยังคงคิดถึง Erica Albright อยู่ เค้าค้นหาชื่อ Erica Albright ใน facebook และส่งคำขอเป็นเพื่อนไป จากนั้นก็นั่งกด F5 รีเฟรชอยู่อย่างนั้นจนจบ
สรุปเป็นตัวละครไปนะ
Erica Albright พูดง่ายๆ ก็แฟนของ Mark Zuckerberg ละนะ แต่คิดว่าคงจะเข้ากันไม่ได้จริงๆ เพราะ Mark Zuckerberg คิดอะไรแปลกๆ ผู้หญิงคงจะเข้าใจ Mark Zuckerberg ได้ยาก เลยบอกเลิก และโดน Mark Zuckerberg โพสต์ด่าว่าเสียๆ หายๆ ใน Blog จนเธอโดนเพื่อนล้อเลียนเรื่องหน้าอก ก็เป็นตัวละครที่น่าสงสารนะครับ
Eduardo Saverin เพื่อนสนิทของ Mark Zuckerberg และเป็นคนที่ออกเงินลงทุนให้ Mark Zuckerberg ในการเปิดเว็บ the facebook ช่วงแรกๆ ด้วย ถ้าไม่มีเค้า ก็อาจจะพูดได้เลยว่าอาจจะไม่มี facebook เป็นตัวละครที่น่าสงสารเหมือนกัน
Cameron Winklevoss ถ้าจำไม่ผิดน่าจะเป็นแฝดคนน้อง และเป็นคนที่ดูแล้วก็เป็นคนดีนะ ไม่ใจร้อน ดูเป็นคนมีเหตุผลดีด้วย ทั้งๆ ที่โดน Mark Zuckerberg ขโมยแนวคิดไปปรับปรุงเป็น the facebook ก็ยังคิดว่า Mark Zuckerberg ไม่ได้ตั้งใจ ต่างกับแฝดอีกคนที่ใจร้อนมากมาย
Tyler Winklevoss แฝดผู้พี่ ดูเป็นคนใจร้อน ขี้โมโห ในเรื่องมีตอนที่ไปพบผู้ใหญ่ แต่ว่าก็เกือบจะหลุดปากด่าเค้าไป โชคยังดีที่ Cameron ห้ามไว้ทัน และตอนที่ออกจากห้องยังไปหักลูกบิดประตูเค้าอีก
Divya Narendra คนนี้ก็เป็นเพื่อนกับแฝด Winklevoss แต่ดูแล้วนิสัยไม่ค่อยดี ไม่ชอบ ไม่ขอเขียนอะไรมากแล้วกัน
Sean Parker ผู้ก่อตั้งเว็บ napster แต่สุดท้ายก็โดนฟ้องเละ ถังแตก และเห็นโอกาสที่จะมาเสียบใน facebook ก็เลยเข้ามาจัดการโน่นนี่นั่น เหมือนตัวเองเป็นเจ้าของ หรือหุ้นส่วนใหญ่เลย ในเรื่องงานการใน facebook เค้าไม่ได้ทำอะไรเลย อาจจะเพราะไม่เก่งคอมฯ มั้งนะ แต่จะมีบทบาทมากในการติดต่อประสานงาน และเป็นคนคิดให้ตัดคำว่า the ออก จาก the facebook จึงกลายเป็น facebook เฉยๆ จนตอนนี้ ผมก็ไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ เพราะหลักๆ ก็คือตัวร้ายดีๆ นี่เอง แต่บทบาทเยอะหน่อยก็เลยเขียนเยอะกว่า Divya Narendra นิดหน่อยนะครับ
Mark Zuckerberg เก็บไว้ท้ายสุดเลย ดูเป็นเด็กเรียน และเรียนเก่งด้วยมีอยู่ฉากหนึ่งในห้องเรียน ที่มีเพื่อนส่งเศษกระดาษมาด่า เค้าก็เลยลุกออกจากห้องไป แต่อาจารย์ก็หาว่าเค้าเรียนไม่รู้เรื่อง Mark Zuckerberg ก็เลยตอบปัญหาที่อาจารย์ถามส่งท้ายก่อนออกจากห้อง ซึ่งก็ถูกซะด้วย เป็นคนที่มีเพื่อนน้อย สังเกตว่าในเรื่องเวลา Mark Zuckerberg เดินไปไหนมาไหนมักจะไปคนเดียว ไม่ก็จะมี Eduardo Saverin ไปด้วยเท่านั้น ก็คงแสดงให้เห็นได้ว่าเป็นเพื่อนสนิทคนเดียว นอกนั้นก็เหมือนเพื่อนทั่วๆ ไป แม้แต่ตอนที่ Mark Zuckerberg โดนบอกเลิก Eduardo Saverin ก็ยังห่วง และมาถามข่าวคราว ผมว่าเป็นเพื่อนที่ดีคนหนึ่งเลยนะ แต่ Mark Zuckerberg เองดันไม่ได้ใส่ใจ แม้ตอนหลังที่ Eduardo Saverin โดนลดหุ้นจาก 34.4% เป็น 0.03% เค้าก็ไม่ได้คิดจะทำอะไรเลย ทั้งที่เค้าเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ 51% เอาไว้มีสิทธิ์ตัดสินใจได้อยู่แล้ว แต่ดันไม่ทำ ปล่อยให้เพื่อนโดนลดหุ้น แต่คนอื่นๆ มีหุ้นเท่าเดิมหมด มันเลยน่าคิดว่าจริงๆ แล้วเค้าเห็น Eduardo Saverin เป็นเพื่อนสนิทจริงๆ หรือเปล่า แม้ตอนจบจะเรียกความน่าสงสารจากหลายๆ คนได้ แต่สำหรับผม ผมเฉยๆ นะ อาจจะเข้าไม่ถึงมั้ง แต่ไม่มีเลยความสงสาร เพราะสิ่งที่ Mark Zuckerberg ทำไว้กับ Erica Albright มันก็แรงอยู่นะ ถ้าเป็นคุณผู้อ่าน คุณจะสงสาร Mark Zuckerberg มั๊ย
ภาพยนต์ที่อาจจะเป็นทอล์คออฟเดอะเฟสบุ๊ค คนที่เล่นเฟสบุ๊คต้องพูดถึงกันทั้งนั้น และมีบางส่วนลงทุนไปดูในโรง อาจจะเพื่อต้องการเข้าถึงเฟสบุ๊คให้มากกว่าเดิม แต่หลายคนที่ไปดูมาแล้วอาจจะผิดหวัง ผมก็คนหนึ่งครับ แต่โชคดีไม่ได้เสียเงินไปดูในโรงหนัง
ตัวหนังจะออกแนวดราม่าซะมาก และมีการพูดที่รวดเร็ว (ส่วนมากก็เป็นการถกเถียงกัน) ใครภาษาอังกฤษไม่แข็ง จะอ่านซับเอาคงตามเรื่องไม่ทัน (แต่ก็โชคดีของผมอีก ที่ผมได้ดูเป็นเสียงไทย) ดูแรกๆ อาจจะงง เพราะหนังเล่นตัดบทอดีตกับปัจจุบันสลับไปมาตลอด เล่นซะผมคิดถึงหนังไทย "เพื่อนสนิทขึ้นมาจับใจ"
อาจจะเพราะหนังไม่ค่อยสนุกด้วยรึเปล่า (ในความรู้สึกของผม) เลยทำให้ไม่น่าติดตามสักเท่าไหร่ ดูได้สัก 10-20 นาที ผมก็ลุกไปทำอย่างอื่นบ้างไรบ้าง แล้วก็กลับมาดูใหม่ต่อจากเดิม ผมจำได้ว่าเริ่มดูตั้งแต่ต้นเรื่องก็ประมาณเช้าเมื่อวาน (18 ก.พ.) จนมาดูจบไปสักพักนี้เอง (19 ก.พ. 4.00น.) ดูๆ หยุดๆ ไม่ชวนติดตาม หนังบางเรื่องดูแล้วหยุดไม่ได้ เห้ย...มันจะเป็นยังไงต่อ หยุดดูไม่ได้ทั้งๆ ที่มี DVD จะวนดูกี่รอบก็ได้ หยุดไว้มาดูใหม่ก็ได้ แต่มันคาใจ ข้างในลึกๆ ต้องดูต่อให้เคลียร์ แต่กับ the social network ไม่เกิดความรู้สึกนั้นขึ้นเลย แต่ว่าตัวหนังก็ทำออกมาดีครับ ถึงจะไม่น่าติดตาม แต่ก็ได้อารมณ์กึ่งสารคดี อืม...ผมก็อธิบายไม่ถูก ประมาณว่าใครที่ชอบดูซี่รี่ย์ LAW & ORDER น่าจะชอบเรื่องนี้ เพราะจะมีฉากทนายคุยกันบ่อยมากๆ ผมดูแล้วก็คิดถึง LAW & ORDER เหมือนกัน
DVD จากข้อมูลที่หามาได้จากอินเตอร์เน็ต จะเข้าไทยช่วงสิ้นเดือน ก.พ. เป็นแบบ 2 แผ่น แน่นอนครับ แผ่นแรกก็เป็นตัวหนัง แผ่น 2 ก็พวกคอมเม้นต์ของผู้กำกับ และนักแสดง ภาพ และข้อมูลเพิ่มเติมอื่นๆ ราคาที่รู้มาก็ 479 บาท น่าจะจัดจำหน่ายโดย MVD ก็รอดูกันครับ สิ้นเดือนรู้แน่นอน...
อ้อ...ส่วนที่ประทับใจในเรื่องนี้ ก็คงเป็นการถ่ายภาพแบบ miniature effect โดยเฉพาะช่วงตอนแข่งพายเรือจะเห็นได้ชัดเจน นอกนั้นก็มีประปรายตามฉากต่างๆ แต่ไม่มาก
รายชื่อนักแสดงบางส่วน
Rooney Mara รับบทเป็น Erica Albright
Andrew Garfield รับบทเป็น Eduardo Saverin
Armie Hammer รับบทเป็น Cameron Winklevoss และ Tyler Winklevoss
Max Minghella รับบทเป็น Divya Narendra
Justin Timberlake รับบทเป็น Sean Parker
Jesse Eisenberg รับบทเป็น Mark Zuckerberg
รายชื่อนักแสดงบางส่วน
Rooney Mara รับบทเป็น Erica Albright
Andrew Garfield รับบทเป็น Eduardo Saverin
Armie Hammer รับบทเป็น Cameron Winklevoss และ Tyler Winklevoss
Max Minghella รับบทเป็น Divya Narendra
Justin Timberlake รับบทเป็น Sean Parker
Jesse Eisenberg รับบทเป็น Mark Zuckerberg
ป้ายกำกับ:ตลก, น่าสนใจ, เก๋
Mark Zuckerberg,
the social network
วันอาทิตย์ที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554
Photo Mosaique
PhotoMosaique 1.6 โปรแกรมทำภาพโมเสกฟรี !!!
Mosaic (โมเสก) คืออะไร?
งานโมเสก (ภาษาอังกฤษ: Mosaic) เป็นศิลปะการตกแต่งด้วยชิ้นแก้ว, หิน หรือกระเบื้องชิ้นเล็กๆ ซึ่งใช้เป็นการตกแต่งภายในเช่นภายในมหาวิหาร การตกแต่งลวดลายหรือภาพทำจากชิ้นกระเบื้องหรือเศษจากเครื่องปั้นดินเผาที่เรียกว่า “tesserae” หรือ กระจกสี หรือแก้วใสเคลือบด้วยโลหะข้างหลัง งานโมเสก
*** ข้อมูลจาก wikipedia
ทุกวันนี้ภาพแบบโมเสกได้รับความนิยมนำมาปรับแต่งประยุกต์เป็นรูปภาพกัน ดังนั้น ภาพแบบโมเสก (Photo Mosaic) คือ การนำรูปถ่ายมาเรียงต่อกัน เป็นรูปภาพที่สวยงาม และนิยมให้กันเป็น ของขวัญ ของที่ระลึก ในวันสำคัญ และวันพิเศษต่างๆ (ที่นิยมตอนนี้ก็จะเป็นภาพบ่าวสาวในงานแต่ง และภาพบัณฑิตที่สำเร็จการศึกษา)
สำหรับผู้ที่สนใจการทำภาพแบบโมเสกด้วยตนเอง (ไม่อยากไปจ้างใคร อยากภูมิใจในฝีมือตนเอง) ผมมีโปรแกรมมาแนะนำครับ นั่นคือโปรแกรม PhotoMosaique 1.6 ซึ่งเป็น Freeware ใช้ฟรีครับ ผู้ผลิตเป็นเจ้าของเดียวกับโปรแกรม PhotoFiltre Studio นะครับ
ดาวน์โหลดโปรแกรม (เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษ) คลิ้กเลยครับ
หรือเข้าไปดูรายละเอียดได้ที่เว็บ
ป้ายกำกับ:ตลก, น่าสนใจ, เก๋
ดาวน์โหลด,
Download,
Freeware,
PhotoMosaique
วันศุกร์ที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2554
สถิติผู้เข้าชม 777 คน
วันนี้ 20 ม.ค. 54 มียอดผู้คลิ้กเข้ามาอ่านบทความครบ 777 คนพอดี เมื่อเวลา 23.24น. (ตามเวลาของ Server Blogger)
ขอบคุณทุกคลิ้กมากนะครับ ผมก็จะพยายามเขียนบทความให้ได้อ่านกันต่อไป ขอบคุณอีกครั้งครับ
วันพฤหัสบดีที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2554
FS PhotoResizer 3.0 (3)
FastStone Photo Resizer 3.0 ตอนที่ 3
สอนวิธีการ Rename ไฟล์รูปภาพด้วย FastStone Photo Resizer ตั้งแต่ต้นจนจบครับ
ป้ายกำกับ:ตลก, น่าสนใจ, เก๋
ดาวน์โหลด,
Download,
FastStone,
Freeware,
FS Photo Resizer,
Photo Resizer
FS PhotoResizer 3.0 (2)
FastStone Photo Resizer 3.0 ตอนที่ 2
สอนวิธีการ Resize รูปภาพด้วย โปรแกรม FastStone Photo Resizer ตั้งแต่ต้นจนจบ
ป้ายกำกับ:ตลก, น่าสนใจ, เก๋
ดาวน์โหลด,
Download,
FastStone,
FS Photo Resizer,
Photo Resizer,
Video,
YouTube
FS PhotoResizer 3.0 (1)
FastStone Photo Resizer 3.0 ตอนที่ 1
สอนวิธีดาวน์โหลดโปรแกรม FastStone Photo Resizer 3.0 และการเปิดใช้งานหลังจากดาวน์โหลดเสร็จแล้ว (FastStone Photo Resizer 3.0 ที่จะกล่าวถึงนี้จะเป็นแบบ Portable นะครับ)
*** ถ้าภาพไม่ชัด ให้คลิ้กที่โลกโก้ YouTube (มุมขวาล่าง) เพื่อเปิดเข้าไปดูในหน้าเว็บ Youtube นะครับ
ป้ายกำกับ:ตลก, น่าสนใจ, เก๋
ดาวน์โหลด,
Download,
FastStone,
FS Photo Resizer,
Photo Resizer,
Video,
YouTube
วันพุธที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2554
วิธีดาวน์โหลด eBuddy (2)
วิธีดาวน์โหลด eBuddy (ตอนที่ 2)
ในตอนที่ 2 นี้ จะพูดถึงวิธีการดาวน์โหลดโปรแกรม eBuddy ผ่านทางโทรศัพท์มือถือกันเลยครับ ซึ่งขั้นตอนก็ไม่ยาก แถมดาวน์โหลดและติดตั้งเสร็จเลยครับ ไม่เหมือนดาวน์โหลดกับคอมพิวเตอร์ แล้วค่อยนำไฟล์ที่ได้ไปติดตั้งในโทรศัพท์มือถืออีกที และโทรศัพท์มือถือที่ใช้ในการเขียนบทความนี้คือ Nokia 5233 นะครับ
1. กดปุ่มลัดเพื่อเปิดแถบมีเดีย (ในภาพปุ่มลัดอยู่ที่หมายเลข 1 ครับ)
2. แถบมีเดียจะขึ้นมา ให้จิ้มที่ไอค่อนเว็บ (รูปโลก)
3. จากนั้นจะเข้ามาที่หน้า บุ๊คมาร์ค แล้วให้จิ้มที่ไอค่อน ไปยังที่อยู่เว็บ (รูปโลกมีลูกศรชี้ไปทางขวา) ถ้างงๆ กับรูปประกอบ ช่วยหมุนจอโทรศัพท์มือถือมาเป็นแนวนอนนะครับ จะได้ดูเหมือนๆ กัน
4. พิมพ์ที่อยู่ลงไป นั่นคือ get.ebuddy.com จากนั้นจิ้มที่ไอค่อนเครื่องหมายถูก
5. กลับมาที่หน้า บุ๊คมาร์ค ให้จิ้มตรงปุ่ม ไปที่
6. จิ้มที่ อินเทอร์เน็ต
7. รอครับ
8. เมื่อเข้าสู่หน้าเว็บ get.ebuddy.com จะเข้าสู่ขั้นตอนที่ 1/3 Choose your brand ให้จิ้มในช่อง Select...
9. รายการยี่ห้อโทรศัพท์มือถือจะขึ้นมา เลือกให้ตรงกับที่ต้องการครับ ในที่นี้ก็คือ Nokia นะครับ
10. เลือกเสร็จแล้วจิ้มที่ Next
11. เข้าสู่ขั้นตอนที่ 2/3 Choose your type จิ้มในช่อง Select... เหมือนเดิม
12. เลือกรุ่นโทรศัพท์มือถือที่ต้องการ ในที่นี้ผมใช้ Nokia 5233 แต่ผมทราบว่าระบบต่างๆ มันเหมือนกับ Nokia 5800 Xpress Music ก็เลยเลือกเป็นรุ่นนี้ (เพราะไม่มีรุ่น Nokia 5233 ให้เลือกนะครับ)
13. เลือกเสร็จแล้วจิ้มที่ Next
14. จิ้มที่ปุ่ม Download
15. จิ้มปุ่ม ทำต่อ และ ทำต่อ
16. เลือกการติดตั้ง ในตัวอย่างผมเลือกติดตั้งใน E: Memory card แล้วจิ้มที่ เลือก
17. ระหว่างติดตั้งต้องมีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต (สำหรับระบบเติมเงิน อย่าลืมเช็คยอดเงินก่อนนะครับ)
18. รอครับ ขนาดไฟล์ 296 kB ดาวน์โหลดไม่นาน
19. ดาวน์โหลดเสร็จ จะเริ่มการติดตั้งทันทีครับ ต้องรออีกแล้ว...
20. ติดตั้งเสร็จจะมีหน้าต่างขึ้นมาแจ้ง ถ้ายังไม่อยากใช้ให้เลือกจิ้มที่ ปิด ถ้าจะเปิดใช้เลยก็ให้จิ้มที่ เริ่ม
หมายเหตุ : สำหรับ eBuddy ที่ผมเขียนมานี้เป็นเวอร์ชั่น 1.5.0 นะครับ ซึ่งหลังจากติดตั้งแล้ว จะพบปัญหาดังภาพด้านล่าง นั่นก็คือโปรแกรมไม่เต็มจอ
วิธีแก้ไขผมจะเขียนถึงในตอนต่อไปนะครับ
ป้ายกำกับ:ตลก, น่าสนใจ, เก๋
eBuddy,
N70,
N72,
Nokia,
Nokia 5230,
Nokia 5233,
Nokia 5235,
Nokia 5530,
Nokia 5800,
Nokia E63,
Nokia E66,
Nokia E71,
Nokia E72
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)